xs
xsm
sm
md
lg

SCBT ชงจีดีพีปีหน้าพุ่ง 6% ชี้เม็ดเงินลงทุนใน-นอกอัดฉีด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สแตนชาร์ดฯ พลิกมุมมองเศรษฐกิจไทย คาดปีหน้าโตกระฉูด 6% จากโครงการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจนขึ้นนำร่องเอกชนตาม ขณะที่เม็ดเงินลงทุนโดยตรงที่ค้างท่อจากบีโอไอหนุน ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายคาดปรับขึ้น 0.5% บาทแตะ 31 แข็งค่ารับเงินทุนไหลเข้า

น.ส.อุสรา วิไลพิญช์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ดเตอร์ด (ไทย)(SCBT) กล่าวว่า ธนาคารคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีหน้าเติบโต 6% โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้น หลังจากมีรัฐบาลที่สามารถบริหารจัดการได้เต็มที่ ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจ และนำพาการลงทุนของภาคเอกชนตามมา นอกจากนี้ ยังรับปัจจัยหนุนจากการเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่น่าจะเพิ่มขึ้นมาก จากจำนวนการขอสิทธิบัตรส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ปีนี้ที่มีกว่า 700,000 ล้านบาท และยังมีส่วนที่ยังค้างการลงทุนอีกมากที่จะข้ามไปลงทุนไปในปีหน้า โดยคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนในปีหน้าจะขยายตัว 11.6% จากปีนี้ที่ 2.5%

ด้านการส่งออกนั้น ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ไทยคงจะไม่รับผลดีจากจุดนี้เต็มที่ เนื่องจากยังมีปัญหาด้านโครงสร้าง โดยคาดว่าส่งออกจะขยายตัวได้ 4.5% ขณะที่หนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็จะกดดันการใช้จ่ายอยู่ แต่คาดว่าในปีหน้าหากความมั่นใจเพิ่มขึ้นก็จะขยายตัวได้แต่ก็ไม่มากนักเช่นกัน

“เศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก เพราะเราเจอปัญหาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2008 ก็เจอกับวิกฤตซับไพรม์ มา 2011 ก็เจอกับน้ำท่วม และล่าสุด ก็เป็นปัญหาการเมืองทำให้เราโตเฉลี่ยปีละ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพมาตลอด ทั้งที่ตามศักยภาพแล้วจะอยู่ที่ 4.5-5% ดังนั้น ส่วนต่างๆ ที่ยังคงค้างอยู่ก็จะเริ่มออกมา ในภาวะที่ปัญหาต่างๆ คลี่คลายไปแล้ว”

สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้านั้น จากประมาณการจีดีพีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทึ่คาดการณ์ไว้ 4.8% นั้น ก็น่าจะยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 0.5% จากปัจจุบันที่ 2% แต่หากจีดีพีเติบโตได้สูงในระดับธนาคารประมาณการก็จะมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 1% แต่ก็จะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งก็จะเป็นทิศทางเดียวอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับขึ่้นในช่วงกลางปีหน้า และคาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 1%

น.ส.อุสรา กล่าวอีกว่า จากแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้มีการระดมทุนมากขึ้น ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่าดอกเบี้ยในตลาดเงินอาจจะปรับตัวขึ้นก่อนดอกเบี้ยนโยบายก็เป็นได้

ส่วนผลกระทบการยกเลิกมาตรการ QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นั้น คงจะส่งผลกระทบไทยไม่มากนัก เพราะเงินส่วนใหญ่ไหลออกไปก่อนแล้ว และเชื่อว่าในปีหน้าก็จะมีเงินลงทุนทั้งจากทางตรง และทางอ้อมเข้ามามากขึ้นจากความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้

ทั้งนี้ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าเติบโต 3.8% จากปีนี้ที่ 3.3% เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโต 3.1% จากปีนี้ที่ 2.2% เศรษฐกิจกลุ่มยูโร เติบโต 1.3% จากปีนี้ 0.8% เศรษฐกิจจีน เติบโต 7.1% จากปีนี้ 7.4% และเศรษฐกิจอาเซียน เติบโต 5.4% จากปีนี้ที่ 4.7%
กำลังโหลดความคิดเห็น