xs
xsm
sm
md
lg

TMB โชว์กำไร Q3 เพิ่ม 28%-สินเชื่อ-รายได้กระเตื้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีเอ็มบีประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3 จำนวน 2.38 พันล้านบาท ลดลง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากรายการพิเศษ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 28% ระบุจากรายได้ดอกเบี้ย-ค่าฟีที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เอ็นพีแอลอยู่ที่ 3.43% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 250 ล้านบาท

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (ทีเอ็มบี) แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 3 ปี 2557 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 2,387 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 7% จาก 2,575 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากในไตรมาสที่แล้วธนาคารมีการรับรู้รายการพิเศษ แต่เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับ 1,870 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว จากรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองของธนาคารในไตรมาสนี้ปรับตัวดีขึ้นเป็น 3,800 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรงวด 9 เดือนของปี 2557 มีจำนวน 6,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับ 3,938 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว

ด้านเงินฝากของธนาคารลดลงเล็กน้อยประมาณ 4,500 ล้านบาท หรือ 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของเงินฝากประจำ แต่เงินฝากธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือ 4% และโดยรวมในงวด 9 เดือนของปีนี้ ธนาคารสามารถขยายเงินฝากได้ประมาณ 39,000 ล้านบาท หรือ 7% โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นในช่วง 9 เดือน มาจาก 2 ส่วนเป็นหลัก คือ เงินฝากลูกค้ารายย่อยในผลิตภัณฑ์เงินฝากที่เป็นจุดเด่นของธนาคาร คือ เงินฝากไม่ประจำ (No Fixed) เงินฝาก ME by TMB และมาจากเงินฝากเพื่อธุรกรรมทางการเงิน ขณะที่สินเชื่อในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวประมาณ 16,000 ล้านบาทหรือ 3% จากไตรมาสที่แล้วจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และสินเชื่อลูกค้าบุคคล โดยสำหรับงวด 9 เดือนนั้น สินเชื่อเพิ่มขึ้นรวม 5%

ธนาคารยังคงควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้อย่างดี โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวน 21,027 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยประมาณ 250 ล้านบาทจากไตรมาสที่แล้ว และลดลงในงวด 9 เดือนเป็นจำนวน 1,394 ล้านบาท โดยสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ลดลงมาอยู่ที่ 3.43% จาก 3.87% ณ สิ้นปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ยังคงแข็งแกร่งที่ 139%

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีเอ็มบี กล่าวว่า ธนาคารมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่ดีขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ขณะที่ยังสามารถขยายฐานลูกค้าเงินฝากธุรกรรมทางการเงินได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 นี้แม้ว่าเงินฝากรวมจะลดลงเล็กน้อย แต่มีเงินฝากธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย อีกทั้งธนาคารยังคงดำรงสถานะกองทุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ภายใต้เกณฑ์ Basel III เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.3% และกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.9% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.5% และ 6.0% ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น