กสิกรไทยเตือนบาทป่วน แนะซื้อประกันความเสี่ยง

“กสิกรไทย” มองเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าระยะสั้น แต่ปลายปีอ่อนแตะ 33 บาท แนะผู้นำเข้า-ส่งออกทำประกันความเสี่ยงรับความผันผวน เผยต่างชาติขนเงินเข้าลงทุนในตราสารหนี้ 8 เดือน กว่า 260,000 ล้านบาท ขณะที่เอกชนแห่ออกหุ้นกู้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า กสิกรไทย มองค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง โดยมีเป้าหมายสิ้นปีอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น แต่ในระยะสั้นค่าเงินบาทอาจมีความผันผวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นได้บ้าง จากเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับคาดการณ์ว่า อาจมีการออกมาตรการผ่อนคลายการเงินรอบใหม่ของธนาคารกลางยุโรป จากการประชุมในวันที่ 2 ต.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินอีกระลอกไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ และอาจทำให้เงินบาท และสกุลเพื่อนบ้านแข็งค่าขึ้นได้ชั่วคราว

สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำเข้า ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2557 แนะนำให้เริ่มเข้าป้องกันความเสี่ยงด้วยธุรกรรม Forward หรือ ธุรกรรม Option โดยทยอยซื้อดอลลาร์ และรอจังหวะซื้อดอลลาร์เพิ่มหากธนาคารกลางยุโรปมีการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายการเงิน

ทั้งนี้ ผู้ส่งออกที่มองว่าค่าเงินบาทอาจมีโอกาสแข็งค่าขึ้นในช่วงที่จะได้รับชำระค่าสินค้าก่อนปลายปี แนะนำให้เข้าป้องกันความเสี่ยงโดยการซื้อ Put Option ซึ่งเป็นการประกันอัตราแลกเปลี่ยนขั้นต่ำสุดในการขายดอลลาร์หากบาทแข็งค่า และในขณะเดียวกัน จะมีโอกาสขายได้อัตราที่ดีขึ้นอีกหากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าป้องกันความเสี่ยงไม่เสียโอกาสหากเงินบาทอ่อนค่าลงมากเหมือนการทำ Forward ปกติ

ด้านตลาดตราสารหนี้ของไทย นับจากต้นปีจนถึงปลายเดือนสิงหาคม นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ไทยกว่า 260,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ผู้ออกหุ้นกู้ภาคเอกชนมีมูลค่าการออกหุ้นกู้นับตั้งแต่ต้นปี 2557 ถึงปลายเดือนสิงหาคมกว่า 420,000 ล้านบาท (นับรวมหุ้นกู้ของธนาคารพาณิชย์) โดยคาดการณ์ว่า หุ้นกู้เอกชนที่ออกจำหน่ายในปีนี้รวมแล้วจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท