“แบงก์กรุงเทพ” เผยยอดบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพ อัจฉริยะพุ่ง จากประมาณ 2 ล้านใบในปี 2556 เป็นเกือบ 4 ล้านใบ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม เหตุมีระบบความปลอดภัยสูง พร้อมจัดแคมเปญฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบันลูกค้าต่างตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม โดยพบว่า ตัวเลขบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพอัจฉริยะ ใบแรกจากธนาคารกรุงเทพ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากจำนวนบัตรที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านใบ ณ สิ้นปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4 ล้านใบ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2557 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ลูกค้ามีความสนใจในบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพอัจฉริยะ ของธนาคารกรุงเทพ และความมั่นใจในการใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพกว่า 8,500 เครื่องทั่วประเทศ
ทั้งนี้ บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้านความปลอดภัยสำหรับลูกค้า ด้วยการนำระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง และนำเทคโนโลยีชิพอัจฉริยะ EMV มาตรฐานสากลมาติดลงบนบัตร ทำให้ยากต่อการปลอมแปลง และปลอดภัยจากการคัดลอกบัตร เพื่อช่วยปกป้องเงินในบัญชีของลูกค้า และป้องกันภัยจากการโจรกรรมทางเอทีเอ็มให้สูงขึ้นไปอีกขั้น พร้อมกันนี้ ได้ติดตั้งเครื่องอ่านชิปอัจฉริยะที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพทุกเครื่องทั่วประเทศ ให้สามารถรองรับการอ่านข้อมูลชิปที่ติดอยู่บนตัวบัตร เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการเบิกถอนเงินสดได้ด้วยความมั่นใจ
นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับผู้สมัครบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพอัจฉริยะ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 พฤศจิกายน 2557 สามารถรับสิทธิประโยชน์ ฟรี!ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท และได้รับบริการ SMS แจ้งความเคลื่อนไหวของบัญชี (SMS Account Alert) ระยะเวลา 2 เดือน
สำหรับคำแนะนำถึงวิธีป้องกันที่ลูกค้าสามารถปกป้องเงินในบัญชีไว้ได้อย่างปลอดภัยด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำง่ายๆ
1.ใช้มือบังแป้นกดรหัสส่วนตัวขณะทำรายการ เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพ หรือกล้องแอบถ่ายมองเห็นรหัสส่วนตัวได้
2.สังเกตว่ามีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่ที่ตัวเครื่องหรือไม่ และเลือกทำรายการจากเครื่องที่มีการติดตั้งระบบป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
3.สังเกตว่ามีการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดของธนาคารหรือไม่ มิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวบริเวณเครื่องเพื่อซ่อนกล้อง หากพบกล่องที่น่าสงสัยให้หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องดังกล่าว และกรุณาแจ้งธนาคาร โทร.1333 หรือ 0-2645-5555
4.อย่าหลงเชื่อทำธุรกรรมตามขั้นตอนที่มีผู้อื่นบอกให้ทำตามโดยไม่เข้าใจ หรือแนะนำให้ทำธุรกรรมที่ไม่คุ้นเคยผ่านเครื่องเอทีเอ็ม เพราะมิจฉาชีพบางกลุ่มพยายามหลอกลวงให้เชื่อว่าจะได้รับเงิน หรือเพื่อตรวจสอบข้อมูลบางอย่างผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งในความเป็นจริงลูกค้ากำลังโดนหลอกให้โอนเงินไปเข้าบัญชีมิจฉาชีพ
5.อย่ามอบบัตรให้บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น และควรระมัดระวังบุคคลที่พยายามเข้ามาเกี่ยวข้องขณะทำรายการ
6.ควรเปลี่ยนรหัสบัตรทันที เมื่อสงสัยว่ามีการถอนเงินจากบัญชี และแจ้งสาขาที่อยู่
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบันลูกค้าต่างตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม โดยพบว่า ตัวเลขบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพอัจฉริยะ ใบแรกจากธนาคารกรุงเทพ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากจำนวนบัตรที่มีอยู่ประมาณ 2 ล้านใบ ณ สิ้นปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4 ล้านใบ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2557 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ลูกค้ามีความสนใจในบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพอัจฉริยะ ของธนาคารกรุงเทพ และความมั่นใจในการใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพกว่า 8,500 เครื่องทั่วประเทศ
ทั้งนี้ บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้านความปลอดภัยสำหรับลูกค้า ด้วยการนำระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง และนำเทคโนโลยีชิพอัจฉริยะ EMV มาตรฐานสากลมาติดลงบนบัตร ทำให้ยากต่อการปลอมแปลง และปลอดภัยจากการคัดลอกบัตร เพื่อช่วยปกป้องเงินในบัญชีของลูกค้า และป้องกันภัยจากการโจรกรรมทางเอทีเอ็มให้สูงขึ้นไปอีกขั้น พร้อมกันนี้ ได้ติดตั้งเครื่องอ่านชิปอัจฉริยะที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพทุกเครื่องทั่วประเทศ ให้สามารถรองรับการอ่านข้อมูลชิปที่ติดอยู่บนตัวบัตร เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการเบิกถอนเงินสดได้ด้วยความมั่นใจ
นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับผู้สมัครบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ชิพอัจฉริยะ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 พฤศจิกายน 2557 สามารถรับสิทธิประโยชน์ ฟรี!ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท และได้รับบริการ SMS แจ้งความเคลื่อนไหวของบัญชี (SMS Account Alert) ระยะเวลา 2 เดือน
สำหรับคำแนะนำถึงวิธีป้องกันที่ลูกค้าสามารถปกป้องเงินในบัญชีไว้ได้อย่างปลอดภัยด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำง่ายๆ
1.ใช้มือบังแป้นกดรหัสส่วนตัวขณะทำรายการ เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพ หรือกล้องแอบถ่ายมองเห็นรหัสส่วนตัวได้
2.สังเกตว่ามีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่ที่ตัวเครื่องหรือไม่ และเลือกทำรายการจากเครื่องที่มีการติดตั้งระบบป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
3.สังเกตว่ามีการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดของธนาคารหรือไม่ มิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวบริเวณเครื่องเพื่อซ่อนกล้อง หากพบกล่องที่น่าสงสัยให้หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องดังกล่าว และกรุณาแจ้งธนาคาร โทร.1333 หรือ 0-2645-5555
4.อย่าหลงเชื่อทำธุรกรรมตามขั้นตอนที่มีผู้อื่นบอกให้ทำตามโดยไม่เข้าใจ หรือแนะนำให้ทำธุรกรรมที่ไม่คุ้นเคยผ่านเครื่องเอทีเอ็ม เพราะมิจฉาชีพบางกลุ่มพยายามหลอกลวงให้เชื่อว่าจะได้รับเงิน หรือเพื่อตรวจสอบข้อมูลบางอย่างผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งในความเป็นจริงลูกค้ากำลังโดนหลอกให้โอนเงินไปเข้าบัญชีมิจฉาชีพ
5.อย่ามอบบัตรให้บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น และควรระมัดระวังบุคคลที่พยายามเข้ามาเกี่ยวข้องขณะทำรายการ
6.ควรเปลี่ยนรหัสบัตรทันที เมื่อสงสัยว่ามีการถอนเงินจากบัญชี และแจ้งสาขาที่อยู่