นักวิเคราะห์คาดวันนี้ ดัชนีเริ่มแกว่งตัวออกข้าง โดยยังสามารถขึ้นทดสอบ 1,600 จุดได้อย่างต่อเนื่อง เตือนยังอยู่ในช่วงปรับฐาน อาจมีแรงขายแต่ดัชนีไม่น่าจะลงแรง เนื่องจากยังมีเม็ดเงินจากต่างชาติ และกองทุนรอรับอยู่จำนวนหนึ่ง
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด คาดแนวโน้มดัชนีวันนี้ (24 ก.ย.) คงแกว่งตัวออกด้านข้างขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด โดยมีกรอบเคลื่อนไหว 1,585-1,598 จุด โดยคาดรูปแบบการเคลื่อนไหว น่าจะปรับลดลงมาก่อนในช่วงเช้าตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เปิดลบ หลังดัชนีดาวโจนส์ปรับลงเป็นวันที่สองอีกกว่า 116 จุด เมื่อคืนนี้ แต่จะสามารถดีดกลับไปเคลื่อนไหวแดนบวกได้ระหว่างวัน เนื่องจากจิตวิทยาการลงทุนไม่เสีย เพราะแม้ดัชนีดาวโจนส์ปรับลง 2 วันแต่ดัชนีหุ้นไทยสามารถเปิดทำจุดสูงสุดใหม่ได้สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ประกอบกับการประชุม ครม. 1-2 สัปดาห์นี้ น่าจะมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยนายกฯ ประกาศวงเงินล๊อตแรกแล้ว 1.1 ล้านล้านบาท อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติและสถาบันยังเป็นผู้ซื้อสุทธิพร้อมกันในช่วงสัปดาห์นี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงปรับลดลงต่อเนื่องมาที่ 2.53% บ่งบอกถึงสภาพคล่องส่วนเกินยังดำรงอยู่ พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุนรอขายทำกำไรบริเวณ 1600 +/- จุด หรือหาจังหวะเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงมา
ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ คาดว่า ตลาดจะปรับฐานลง แต่ไม่น่ารุนแรง เนื่องจากปลายสัปดาห์นี้จะมีทริกเกอร์ฟันด์ไหลเข้าอีก 1 กอง คือ KTAM น่าจะช่วยจำกัด downside ของ SET ประกอบกับกระแสเงินทุนต่างประเทศเริ่มกลับเข้ามามากขึ้น คาด SET แกว่งในกรอบ 1,574-1,595 06f รอการเปลี่ยนทิศทาง โดยหากปิดเหนือ 1,595 06f ได้ มีเป้าเทคนิคต่อไปที่ราว 1,610-1,620 จุด ซึ่งหากดัชนีผ่านแนวต้านดังกล่าวได้คาดว่าจะมีทริกเกอร์ฟันด์ 5-6 กอง คิดเป็นเม็ดเงินราว 3 พันล้านบาท ถึงเป้าแล้วขายทำกำไรออกมา ทำให้ upside ของ SET จำกัด
จึงแนะนำเลือกสะสมหุ้นพื้นฐานดีรายตัวที่ Valuations ยังไม่แพง และราคายังไม่ปรับขึ้นมาก หุ้นที่น่าทยอยสะสมหวังผลใน Q4 กลุ่มธนาคาร แนะนำ BBL, KBANK, TMB กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แนะนำ LPN กลุ่มค้าปลีก แนะนำ MC กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แนะนำ STEC, TTCL
