“ก.ล.ต.” เตรียมเสนอ “สนช.” ให้อำนาจสั่งฟ้องแพ่งคนปั่นหุ้นโดยใช้ข้อมูลอินไซด์ เพื่อลดขั้นตอนดำเนินคดี พร้อมทั้งให้มีการปรับ 3 เท่าของมูลค่าที่ทุจริต
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อนุมัติการแก้กฎหมายให้อำนาจ ก.ล.ต. มีสิทธิสั่งฟ้องทางแพ่งแก่ผู้ทำผิดในการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อลดระยะเวลาในการดำเนินคดี จากปกติที่ต้องดำเนินการทางอาญา ซึ่งต้องพิสูจน์หลักฐานจนสิ้นข้อสงสัย ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าจะตัดสินคดีได้
ขณะที่กฎหมายใหม่ที่ได้เสนอไปจะมีขั้นตอนที่รวบรัดกว่า โดยหากมีหลักฐานพร้อมก็สามารถยื่นฟ้อง และยึดผลประโยชน์ที่ได้รับได้ทันที พร้อมทั้งให้มีการปรับ 3 เท่าของมูลค่าที่ทุจริต
โดยกฎหมายใหม่ดังกล่าวจะมีการเพิ่มการตรวจสอบผู้ที่ใช้ข้อมูลอินไซด์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ จากเดิมที่จะมีการตรวจสอบเฉพาะกรรมการบริษัท และผู้บริหารเท่านั้น
“เราได้มีกฎหมายใหม่ที่เพิ่มเข้าไป เรียกว่า Tippe ซึ่งจะตรวจสอบผู้ที่มีความผิดปกติในการซื้อขายที่เข้าข่ายว่าใช้ข้อมูลอินไซด์ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่ไม่เคยซื้อขายหุ้นมาก่อน ได้ทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับข่าวที่จะแจ้งออกมา และได้รับผลประโยชน์จากราคาหุ้น โดยหากมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวเนื่องกันก็จะส่งผลฟ้องทันที โดยทางผู้ที่ถูกฟ้องต้องชี้แจงรายละเอียดเพื่ออธิบายให้ครบถ้วน และชัดเจน มิเช่นนั้นจะถูกเอาผิดได้”
ขณะที่ในปัจจุบัน ก.ล.ต.และ ตลท. ก็ได้มีการร่วมมือกันอย่างเข้มงวดในการตรวจสอบผู้กระทำความผิดในการซื้อขายหุ้น ซึ่งยังมีอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. คาดหวังที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเลย เพื่อเป็นมาตรฐานที่ของตลาดหลักทรัพย์ไทย
