สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยสถิติตลาดทุนช่วงครึ่งแรกปี 2557 มีการรับเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 35 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรม (ปั่นหุ้น แพร่ข่าว ใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหลักทรัพย์) จำนวน 7 เรื่อง การประกอบธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาต 16 เรื่อง และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนจำนวน 12 เรื่อง โดยมีจำนวนเรื่องร้องเรียนที่ยุติแล้ว หรือส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่นจำนวน 25 เรื่อง
ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีการเปรียบเทียบปรับจำนวน 74 ข้อหา หรือ 64 ราย จำนวนเงินค่าปรับ 88,324,585.76 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการเปรียบเทียบปรับ 48,862,201.79 บาท ?ขณะที่มีการกล่าวโทษรวมทั้งสิ้น 51 ราย
ส่วนสถิติตลาดทุนช่วงครึ่งแรกปี 2557 มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (เทคโอเวอร์) จำนวน 7 บริษัท มูลค่าหุ้นที่เกิดรายการซื้อขายจริง 3,943 ล้านบาท โดยเป็นการทำคำเสนอซื้อในช่วงไตรมาส 2/57 จำนวน 3 บริษัท มูลค่าหุ้นที่เกิดรายการซื้อขายจริง 3,274 ล้านบาท
ส่วนข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ก.ล.ต. ได้จัดสรรวงเงินแล้วทั้งสิ้น 47,215 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการนำเงินไปลงทุนจริง 32,818 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 70% ของวงเงินที่ ก.ล.ต. จัดสรรทั้งหมด ทั้งนี้การลงทุนในต่างประเทศกระจายตัวในหลายเขตเศรษฐกิจ โดย 5 อันดับแรก (70%) ได้แก่ ฮ่องกง มาเก๊า จีน ตุรกี และบราซิล ประเภทตราสารที่ลงทุนส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเงินฝากและบัตรเงินฝาก (42.75%) รองลงมาได้แก่ ตราสารหนี้อื่น (21.51%) และหุ้นกู้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิ หุ้นกู้แปลงสภาพ (13%)
ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีการเปรียบเทียบปรับจำนวน 74 ข้อหา หรือ 64 ราย จำนวนเงินค่าปรับ 88,324,585.76 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการเปรียบเทียบปรับ 48,862,201.79 บาท ?ขณะที่มีการกล่าวโทษรวมทั้งสิ้น 51 ราย
ส่วนสถิติตลาดทุนช่วงครึ่งแรกปี 2557 มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (เทคโอเวอร์) จำนวน 7 บริษัท มูลค่าหุ้นที่เกิดรายการซื้อขายจริง 3,943 ล้านบาท โดยเป็นการทำคำเสนอซื้อในช่วงไตรมาส 2/57 จำนวน 3 บริษัท มูลค่าหุ้นที่เกิดรายการซื้อขายจริง 3,274 ล้านบาท
ส่วนข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ก.ล.ต. ได้จัดสรรวงเงินแล้วทั้งสิ้น 47,215 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการนำเงินไปลงทุนจริง 32,818 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 70% ของวงเงินที่ ก.ล.ต. จัดสรรทั้งหมด ทั้งนี้การลงทุนในต่างประเทศกระจายตัวในหลายเขตเศรษฐกิจ โดย 5 อันดับแรก (70%) ได้แก่ ฮ่องกง มาเก๊า จีน ตุรกี และบราซิล ประเภทตราสารที่ลงทุนส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเงินฝากและบัตรเงินฝาก (42.75%) รองลงมาได้แก่ ตราสารหนี้อื่น (21.51%) และหุ้นกู้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิ หุ้นกู้แปลงสภาพ (13%)
