ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประสาน ก.ล.ต.และ บล. เตือนนักลงทุนอย่าหลงเข้าไปลงทุน 27 หลักทรัพย์ที่เคลื่นอไหวผิดปกติ เร่งรวบรวมข้อมูลส่ง ก.ล.ต.ดำเนินการให้ถึงที่สุด “เกศรา” รับนักปั่นอาศัยช่องโหว่ด้านกฎหมายแลกเปลี่ยนข้อมูลทางโซเชียล มีเดีย ขณะเดียวกัน นำตลาดหุ้นไทยร่วม UN SSE Initiative เป็นรายแรกในอาเซียน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ขณะนี้ ตลท. ร่วมมือกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. รวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์กว่า 27 บริษัท ที่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยทาง ตลท.ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดไปยัง ก.ล.ต.แล้ว เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
“การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงที่ดัชนีเพิ่มสูงขึ้น อยากห้นักลงทุนพิจารณาเลือกลงทุน โดยเพิ่มความระมัดระวังการซื้อขายในหุ้นที่มีกระแสข่าวต่างๆ เพราะอาจสร้างความเสียหายให้แก่นักลงทุนได้ ทั้งนี้ ในหุ้นขนาดเล็กที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ เช่น การขึ้นเครื่องหมายการซื้อขายผิดปกติ และแจ้งเตือนนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายแก่นักลงทุน โดยส่วนตัวคิดว่าเพียงพอต่อการเคลื่อนไหวหุ้นในปัจจุบัน” นางเกศรา กล่าว
นางเกศรา กล่าวว่า ตลท.ไม่มีอำนาจในการลงโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการปั่นหุ้น ทำได้เพียงประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนได้จนถึงที่สุด พร้อมกันนี้ ยอมรับว่ากลุ่มผู้ดำเนินการในลักษณะ “ปั่นหุ้น” อาศัยช่องว่างทางกฎหมายแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันทางโซเชียล ซึ่งทาง ตลท.ได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัทหลักทรัพย์ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ และให้บริการนักลงทุนอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้นักลงทุนหลงไปซื้อขายหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติจนได้รับความเสียหาย
“ในเรื่องของการดำเนินคดีทางกฎหมายนั้น จะเป็นหน้าที่ของ ก.ล.ต. ที่จะเป็นผู้พิจารณาทั้งการเปรียบเทียบปรับ และกระบวนการทางศาลต่อไป โดยทาง ตลท.จะเป็นด่านหน้าที่จะเฝ้าระวัง ตลอดถึงกำกับสมาชิก และโบรกเกอร์นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ ให้มีมาตรฐาน และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด ขณะที่ทางผู้กระทำผิดทั้งรายบุคคล และรายกลุ่ม ซึ่งเคยมีประวัติในการกระทำผิดต่อการสร้างข้อมูลเท็จเพื่อเก็งกำไร ทาง ตลท. และ ก.ล.ต. ได้มีการประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งเฝ้าระวังการทำธุรกรรมในการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์” นางเกศรา กล่าว
ทั้งนี้ การที่ดัชนีหุ้นไทยที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ผลจากสถานการณ์ในประเทศเริ่มนิ่ง มีนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจน และมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แตกต่างจากอดีตที่คนไทยมักมีความเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยต้องมีพี/อีต่ำ เพื่อให้มีส่วนลดสร้างแรงจูงใจ แต่จากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เติบโตดี และมีผลประกอบการแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ
ด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ได้ลงนามเข้าร่วม UN SSE Initiative เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของตลาดหลักทรัพย์ สถาบันการเงิน และผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำระดับโลก เพื่อประกาศเจตนารมณ์ที่จะพัฒนา และส่งเสริมให้องค์กร และผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มดำเนินงานโดยยึดหลักความยั่งยืน เป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาล คำนึงถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งสนับสนุนเรื่องการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน และการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งนี้ ตลท. จะประกาศเจตนารมณ์การเดินหน้าเพื่อพัฒนาความยั่งยืนอย่างเป็นทางการ โดยแถลงต่อที่ประชุม Sustainable Stock Exchanges Global Dialogues ในเดือนตุลาคม 2557 ณ องค์การสหประชาชาติ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
“การเข้าร่วม UN SSE Initiative เป็นรายแรกในอาเซียนนี้ เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำภูมิภาคและเพิ่มบทบาทของ ตลท. ในเวทีสากล โดยต่อยอดจากในปัจจุบันที่ตลาดทุนไทยมีพัฒนาการด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องจนโดดเด่นในระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นผลการประเมินบรรษัทภิบาลของอาเซียน (ASEAN Corporate Governance Scorecard) เป็นอันดับ 1 ในอาเซียนต่อเนื่อง 2 ปี (2556-2557) และการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านบรรษัทภิบาลของตลาดทุน (Corporate Governance - Report on the Observance of Standards and Codes: CG-ROSC) โดยธนาคารโลก ในปี 2556 ไทยได้คะแนนสูงสุดในเอเชีย 11 ประเทศเช่นกัน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ ตลท. ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการพัฒนาตลาดทุนร่วมกับองค์กรชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่าประสบการณ์ และแนวทางในหลายประเทศสามารถนำมาปรับใช้กับการพัฒนาตลาดทุนในไทย” ดร. สถิตย์ กล่าว
UN SSE Initiative ริเริ่มขึ้นในปี 2552โดยปัจจุบันมีตลาดหลักทรัพย์ 13 รายจากทั่วโลกเข้าร่วม และ ตลท. เป็นตลาดหลักทรัพย์รายแรกในอาเซียนที่เข้าร่วม UN SSE Initiative