“วายแอลจี” ประเมิน หากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย ราคาทองคำจะปรับฐาน เตือนนักลงทุนอย่าประมาท ภาพรวมยังทำได้แค่เก็งกำไรระยะสั้น เหตุเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวจะกดดันราคาทองคำต่อเนื่อง หากมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะยิ่งเข้าสู่ขาลงเต็มตัว
ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงราคาทองคำว่า “ช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาพอสมควร แต่ยังอยู่ในกรอบที่มองไว้ ทำให้ในช่วงนี้ราคาทองคำยังอยู่ในกรอบเดิมคือ มีแนวรับแรก 1,280 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวรับต่อไปอยู่ที่ 1,260 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวต้านอยู่ที่ 1,300 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และ 1,320 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์นี้อยู่ที่ 1,260 - 1,320 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์”
“ข่าวที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมา คือ สถานการณ์ในยูเครนที่ดูจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ราคาบวกขึ้นมาอีกรอบ”
โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ มองไปที่รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตร ที่ยังถือว่า เป็นตัวเลขที่ยังต้องติดตาม แต่นอกเหนือจากปัจจัยระยะสั้นที่ต้องติดตาม นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย
“ในระยะนี้ แม้ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมา แต่ก็มองว่า ไม่ใช่การปรับขึ้นโดยตลอด จึงอยากแนะนำการลงทุนทองคำในช่วงนี้เป็นแบบหาจังหวะขายทำกำไรมากกว่า ส่วนการปรับตัวลดลงนั้นมองว่าไม่ช้าอาจได้เห็น เพราะเมื่อสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียคลี่คลายลง จะทำให้ราคากลับมาอยู่ในพื้นฐานเดิม คือ ปรับตัวลดลงจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ”
นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องตามอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำค่อนข้างมาก คือ การที่สหรัฐฯ จะมีโอกาสในการปรับขึ้นนโยบายดอกเบี้ย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน แม้จะเป็นนักลงทุนที่เน้นในปัจจัยระยะสั้นก็อย่าลืมมองกรอบใหญ่ของปี ซึ่งมีแนวรับอยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวต้านจะอยู่ที่ 1,350 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์