TTA เผยผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไร ต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้น สามารถจ่ายปันผลได้ในรอบ 2 ปี เตรียมจ่อขาย IPO ของ PMTA ในตลาดหุ้น คาด ก.ล.ต.อนุมัตินับหนึ่งได้ในเร็วๆนี้
ฝ่ายวิเคราะห์ของ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET ให้ความเห็นว่า จากการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีความพร้อมสูงมากในการดำเนินธุรกิจปี 2557/2558 ที่คาดจะสามารถแสดงกำไรที่ต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นได้อีก อีกทั้งแผนการ IPO ของ PMTA ซึ่งคาดว่า ก.ล.ต. จะพิจารณาอนุมัติได้ในเดือนตุลาคม รวมไปถึงความคาดหวังถึงเงินปันผลครั้งแรกในรอบ 2 ปีอีกด้วย ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณามูลค่าเหมาะสมบนความสามารถในการทำกำไรที่จะเกิดขึ้น แทนการมองมูลค่าทางบัญชีในช่วงเศรษฐกิจซบเซา ซึ่งราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 31.00 บาท/ หุ้น
อย่างไรก็ตาม ทิศทางระยะสั้น และระยะยาวยาวมีทิศทางการฟื้นตัวที่สดใส เนื่องจากแนวโน้มผลกำไรในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 จะมีความโดดเด่นกว่าไตรมาสที่ 3 ของปี 56 ซึ่ง TTA มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท จาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ เรือเทกอง กลุ่มธุรกิจพลังงาน คือ Mermaid และธุรกิจผลิตปุ๋ยในประเทศเวียดนาม โดย PMTA สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างดี บวกด้วยผลของฤดูกาลที่ TTA ได้เตรียมข้อมูล IPO ของ PMTA เสร็จแล้ว โดยคาด ก.ล.ต. จะอนุมัติได้ภายในเดือนตุลาคม ซึ่งผู้บริหารยืนยันถึงการจัดสรรแบบ Preemptive right ให้แก่ผู้ถือหุ้น TTA ขณะที่ผลกำไรที่ต่อเนื่องตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมา รวม 687 ล้านบาท หรือ EPS อยู่ที่ 0.62 บาท ทำให้คาดหวังถึงการจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ 2 ปีได้
ขณะที่กองเรือเทกอง จำนวน 24 ลำ มีขนาดเหมาะสมในการขนส่งสินค้า ขณะที่ต้นทุนเดินเรือได้ปรับปรุงจนลดต่ำมาที่เพียง 8,372 เหรียญ/ลำ/วันแล้ว ค่าระวางในราคาตลาดจะอยู่ที่ 9,954 เหรียญ/ลำ/วัน (เรือขนาด Supramax) ดังนั้น โอกาสที่อัตราการทำกำไรจะขยายตัวในปีถัดๆ ไปมีสูง บนฐานกองเรือที่ใหญ่ขึ้นกว่า 40% เทียบสัดส่วนปีต่อปี Mermaid ในปี 2557/58 ก็ยังคงอยู่บนสัญญาระยะยาว เป็นฐานกำไรปีละไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาทให้แก่บริษัทได้ และการที่บริษัทลูกคือ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส หรือ UMS เริ่มกลับมามีฐานะการเงินที่ดีขึ้น โดยไตรมาสที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานขาดทุนลดลงเหลือเพียง 6 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนในปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 237 ล้านบาท
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของธุรกิจบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามที่มองไว้ ขณะที่ระยะสั้นมีประเด็นบวกจากกำไรที่เร่งตัวขึ้น และการเตรียมที่จะยื่นเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ของบริษัทลูก รวมถึงการจ่ายปันผลครั้งแรก ซึ่งให้นักลงทุนจับตาค่าระวางเรือขนาด Supramax ซึ่งพบว่ามีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องยาวนานกว่าเรือขนาดอื่นๆ ซึ่งสะท้อนว่าระวางขนาดบรรจุของเรือประเภทนี้มีความเหมาะสมต่อสภาวะเศรษฐกิจของโลกปัจจุบัน อีกทั้งยังบรรทุกสินค้าได้หลากหลายอีกด้วย