เผยตลาดฯ กลับมากังวล “เฟด” ปรับขึ้น ดบ. เร็วกว่าคาด ชี้เงินดอลล์เริ่มแข็งเป็นปัจจัยกดดัน

โบรกฯ เผยตลาดหุ้นกลับมากังวล “เฟด” ปรับขึ้นอัตรา ดบ. เร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ชี้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังประคองตัวอยู่ในแดนบวกได้ มาจากการตอบรับผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่้งเน้นการขับเคลื่อนด้านโครงสร้างพื้นฐาน จะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ธนาคาร วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มนิคมอุตฯ ขณะที่การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยกดดัน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1,555-1,549 จุด ทั้งแดนบวกและแดนลบสลับกันไป แต่ถือว่าดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจเร็วกว่าคาดการณ์ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงการประชุมธนาคารกลางโลก ที่เมืองแจ็กสันโฮล วันที่ 21-23 ส.ค. จากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยเลน

ทั้งนี้ หุ้นไทยที่ยังประคองตัวอยู่ในแดนบวกได้ มาจากการตอบรับผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีมติ 191 เสียง จากสมาชิก 194 เสียง ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และจะนำไปสู่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เน้นการขับเคลื่อนด้านโครงสร้างพื้นฐาน จะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม

สำหรับพรุ่งนี้ คาดว่าหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบ แม้ปัจจัยในประเทศจะเป็นบวกโดยส่วนใหญ่ หลังมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะนำไปสู่การมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในเดือนหน้า รวมถึงการจัดงาน Thailand Focus ในสัปดาห์หน้า แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดันจากแรงกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เร็วกว่าคาด และทิศทางการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หากแข็งค่าเร็วอาจจะเห็นการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติอีกครั้ง ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยช์ และเป็น Top pick จากการเดินหน้าของการเมืองไทย ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว (AOT) และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK-STEC) โดยประเมินแนวรับ 1,545-1,546 จุด แนวต้าน 1,555-1,556 จุด