“ที.เค.เอส.เทคโนโลยี” โชว์ผลงาน Q2/57 กำไรพุ่ง 48.7% อยู่ที่ 74.5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 50.1 ล้านบาท จากยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงานประเภท Advance & Security ด้าน “ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ” เอ็มดีหญิง เผยทิศทางครึ่งปีหลัง งานไหลเข้าต่อเนื่อง จากทิศทางงานพิมพ์ยังมีโอกาสเติบโตสวย แถมตุน Backlog อยู่แล้วที่ 400 ล้านบาท พร้อมขยับเป้ายอดขายทั้งปีโตอีก 15% หรืออยู่ที่ 1,700 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,459 ล้านบาท มติบอร์ดอนุมัติปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท/หุ้น
นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบการธุรกิจงานพิมพ์ครบวงจรรายใหญ่ในประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2557 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 74.49 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50.07 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้ กำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 24.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 48.8 รับอานิสงส์จากงานไปรษณียบัตรบอลโลกที่กระแสตอบรับค่อนข้างดี รวมถึงการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทำให้รับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้รับเงินปันผลจากการลงทุนจำนวน 28.74 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แม้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมเท่ากับ 8.07 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 13.40 ล้านบาท ลดลง 5.33 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 39.8 เนื่องจากบริษัทร่วมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ปัญหาการเมืองทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายซื้อสินค้ากลุ่มไอที แต่ทั้งนี้ เชื่อว่าภาพรวมตลาดไอทีในช่วงต่อจากนี้จะฟื้นตัว หลังสถานการณ์ต่างๆ เริ่มชัดเจนแล้ว
สำหรับรายได้จากการขายอยู่ที่ 349.09 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากการขายในช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 300.62 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกันยอดขายเพิ่มขึ้น 48.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.1
“ยอดขายบริษัทฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้รับงานพิมพ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานพิมพ์พิเศษและแบบพิมพ์ปลอดการทำเทียมเพิ่มสูงขึ้น โดยมีสัดส่วนร้อยละ 27 และงานแบบพิมพ์ทั่วไป และแบบพิมพ์ระบบออฟเซ็ตเพิ่มสูงขึ้น โดยมีสัดส่วนร้อยละ 20 ของรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2557 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 19 และ 15 ตามลำดับ ประกอบกับมีกิจกรรมพิเศษเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก และกิจกรรมส่งเสริมการขายของร้านสะดวกซื้อ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำไรขั้นต้นไตรมาส 2/2557 มีสัดส่วนร้อยละ 34.7 โดยเมื่อเทียบกับกำไรขั้นต้นในช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรขั้นต้นสัดส่วนร้อยละ 25.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.1” นางสาวศิริวรรณ กล่าว
พร้อมกันนี้ จากผลประกอบการที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 28 สิงหาคม 2557 วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 29 สิงหาคม 2557 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคม 2557 และจ่ายปันผลวันที่ 10 กันยายน 2557
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่า จะมีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 400 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ รวมทั้งสายการผลิตใหม่ในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็น New Product มาแรง ซึ่งมีออเดอร์เข้ามาแล้ว เป็นงานจากภาครัฐบาล และเริ่มผลิตในไตรมาส 2/2557 พร้อมรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2557 เป็นต้นไป อีกทั้ง งานใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานจากภาครัฐบาลและเอกชน รวมถึงงานตามฤดูกาล จึงพิจารณาปรับเป้ารายได้ทั้งปี 2557 ที่วางไว้จากเดิมที่คาดว่าจะโตขึ้น 10% เป็นโต 15 % หรืออยู่ที่ 1,700 ล้านบาท จากรายได้ทั้งปีของปีก่อนอยู่ที่ 1,459 ล้านบาท