“ไออาร์พีซี” โชว์ผลดำเนินงานสวย ย้ำกำไรปีนี้มากกว่าปีก่อน ประเมินรายได้ปีหน้าโตมากกว่า 10% หลังเดินเครื่องโครงการฟินิกซ์
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 826.27 ล้านบาท โดยหวังว่าโครงการลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพการผลิต (Delta) จะเข้ามาช่วยหนุนกำไรในครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายว่าโครงการ Delta จะสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้กับบริษัทปีละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาโครงการ Delta สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 700 ล้านบาท
ส่วนการคาดหมายผลประกอบการในไตรมาส 3 ยังประเมินได้ยาก เนื่องจากมาร์จินของโรงกลั่นยังอยู่ในภาวะที่ไม่ดีมากนัก ขณะที่ราคาน้ำมันล่าสุดลงไปอยู่ในระดับต่ำที่สุดในปีนี้ที่ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากในช่วงไตรมาส 2 ที่อยู่เฉลี่ย 108 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“ผลประกอบการไตรมาส 3 ยังยากที่จะคาดเดา เพราะเพิ่งผ่านไปเพียง 1 เดือน โดยตอนนี้ราคาน้ำมันลงไปต่ำสุดของปีที่ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มาร์จินของโรงกลั่นลดลงไปด้วย ซึ่งหากราคายังอยู่ในระดับต่ำต่อไปอาจจะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากการสต็อกน้ำมัน แม้ว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะยังอยู่ในขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รายได้หลักมาจากธุรกิจโรงกลั่นกว่า 70% ซึ่งยังต้องติดตาม” นายสุกฤตย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้ปีหน้าจะเติบโตมากกว่า 10% เนื่องจากบริษัทจะมีการเดินเครื่องโครงการฟินิกซ์เต็มโครงการตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตขึ้นไปแตะ 2 แสนบาร์เรล/วัน จากในปีนี้ที่คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8 แสนบาร์เรล/วัน
“ตอนนี้โครงการปรับปรุงคุณภาพการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว คาดว่า จะเสร็จในช่วงไตรมาส 2/58 ซึ่งเท่ากับว่าโครงการฟินิกซ์จะสามารถเดินเครื่องครบทุกหน่วยจะทำให้กำลังการผลิตเรามากขึ้น คิดง่ายๆหากปริมาณน้ำมันดิบเท่ากับปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 10% เพราะโครงการฟินิกซ์จะทำให้โรงกลั่นของเรามีความเป็นคอมเพล็กซ์มากยิ่งขึ้น สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการโรงกลั่นรายอื่นๆได้อย่างเท่าเทียม เราจึงมั่นใจว่ารายได้ปีหน้าจะเติบโตมากกว่า 10%” นายสุกฤตย์ กล่าว
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 826.27 ล้านบาท โดยหวังว่าโครงการลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพการผลิต (Delta) จะเข้ามาช่วยหนุนกำไรในครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายว่าโครงการ Delta จะสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้กับบริษัทปีละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาโครงการ Delta สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัทประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 700 ล้านบาท
ส่วนการคาดหมายผลประกอบการในไตรมาส 3 ยังประเมินได้ยาก เนื่องจากมาร์จินของโรงกลั่นยังอยู่ในภาวะที่ไม่ดีมากนัก ขณะที่ราคาน้ำมันล่าสุดลงไปอยู่ในระดับต่ำที่สุดในปีนี้ที่ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากในช่วงไตรมาส 2 ที่อยู่เฉลี่ย 108 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“ผลประกอบการไตรมาส 3 ยังยากที่จะคาดเดา เพราะเพิ่งผ่านไปเพียง 1 เดือน โดยตอนนี้ราคาน้ำมันลงไปต่ำสุดของปีที่ 103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มาร์จินของโรงกลั่นลดลงไปด้วย ซึ่งหากราคายังอยู่ในระดับต่ำต่อไปอาจจะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากการสต็อกน้ำมัน แม้ว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะยังอยู่ในขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รายได้หลักมาจากธุรกิจโรงกลั่นกว่า 70% ซึ่งยังต้องติดตาม” นายสุกฤตย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้ปีหน้าจะเติบโตมากกว่า 10% เนื่องจากบริษัทจะมีการเดินเครื่องโครงการฟินิกซ์เต็มโครงการตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตขึ้นไปแตะ 2 แสนบาร์เรล/วัน จากในปีนี้ที่คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8 แสนบาร์เรล/วัน
“ตอนนี้โครงการปรับปรุงคุณภาพการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว คาดว่า จะเสร็จในช่วงไตรมาส 2/58 ซึ่งเท่ากับว่าโครงการฟินิกซ์จะสามารถเดินเครื่องครบทุกหน่วยจะทำให้กำลังการผลิตเรามากขึ้น คิดง่ายๆหากปริมาณน้ำมันดิบเท่ากับปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 10% เพราะโครงการฟินิกซ์จะทำให้โรงกลั่นของเรามีความเป็นคอมเพล็กซ์มากยิ่งขึ้น สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการโรงกลั่นรายอื่นๆได้อย่างเท่าเทียม เราจึงมั่นใจว่ารายได้ปีหน้าจะเติบโตมากกว่า 10%” นายสุกฤตย์ กล่าว