ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวประมงเมืองระยอง ร้องสื่อตรวจสอบคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้าชายหาดบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) พร้อมวิจารณ์อาจเป็นน้ำมันตกค้างจากเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลกว่า 50,000 ลิตร เมื่อปีก่อน หรือจากเหตุโรงกลั่นน้ำมันเตาไออาร์พีซีระเบิด และเกิดไฟไหม้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ไออาร์พีซี แจ้งไม่ใช่คราบน้ำมันของตน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวประมงว่า พบคราบน้ำมันดิบที่มีลักษณะเม็ดเล็กจำนวนมากบริเวณชายหาดหลังบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ใกล้ท่าเทียบเรือ หมู่ 5 ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมืองระยอง จึงเดินทางไปตรวจสอบซึ่งก็พบคราบน้ำมันดิบคล้ายยางมะตอย ลักษณะสีดำเม็ดเล็กเต็มบริเวณชายหาด ที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร และชาวบ้านกำลังช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดชายหาด
ชาวประมงพื้นบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า ในช่วงนี้ทะเลมีคลื่นลมแรง และได้ซัดคราบน้ำมันดิบขึ้นที่บริเวณชายหาดหลังบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคราบน้ำมันที่ถูกสลายด้วยน้ำยาเคมีเพื่อให้จมลงสู่ใต้ทะเลจากเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลกว่า 50,000 ลิตรในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง ช่วงปีก่อน ได้ถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เรือหลายลำฉีดพ่นสารเคมีเพื่อสลายคราบน้ำมัน รวมทั้งใช้เครื่องบินฉีดพ่นสลายคราบน้ำมันให้จมลงสู่ใต้ทะเล
ขณะที่ชาวประมงอีกกลุ่มพากันตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นคราบน้ำมันที่เกิดจากสาเหตุโรงกลั่นน้ำมันเตาไออาร์พีซี ระเบิด และเกิดไฟไหม้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นรถดับเพลิงได้ฉีดน้ำดับเพลิง และอาจทำให้น้ำปนเปื้อนคราบน้ำมันไหลลงทะเล
แต่อย่างไรก็ดี ที่มาของคราบน้ำมันดังกล่าวขณะนี้ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเป็นคราบน้ำมัน ที่มีต้นเหตุมาจากที่ใด
ด้าน นายวิทยา ชัชวาลชนกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการส่วนชุมชน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คราบน้ำมันดังกล่าวน่าจะถูกคลื่นซัดมาจากน่านน้ำกลางทะเลที่อยู่ห่างไกลจากฝั่ง โดยสังเกตได้จากลักษณะของคราบน้ำมันซึ่งเป็นเม็ดเล็ก พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่ของไออาร์พีซีอย่างแน่นอน