ตลาดคอนโดมิเนียมพัทยา เข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังเปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศ ทำให้ยอดขายห้องชุดหดตัว 20% จากภาวะปกติ โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่ยังกังวลต่อปัญหาการเมือง ผู้ประกอบการเบรกเปิดโครงการ ลุ้น พ.ย.สถานการณ์ดีขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการ ด้านประธานฯ บริษัท เอ็กแซ็กต์ฯ เดินหน้าจัดงาน พัทยา พร็อพเพอร์ตี้ โชว์ 2014 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 3-5 ต.ค.นี้ หวังกระตุ้นยอดขาย
นายชาร์ลี วอร์เนอร์ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็กแซ็กต์ เทรดดิ้ง จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยว่า ยังมีความได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ระดับราคาที่ถูกกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในเมืองพัทยา ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาตินิยมที่จะเดินทางเข้าพักผ่อน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเล่นกีฬากอล์ฟ จะเดินทางมาใช้บริการสนามกอล์ฟในเมืองพัทยาในปีที่ผ่านมาประมาณ 1.2 แสนคน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อสูง โดยจะใช้จ่ายต่อทริปไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท มากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปหลายเท่าตัว
“จะเห็นได้ว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยามีความเจริญเติบโตอย่างมากๆ มีซัปพลายออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และตลาดให้เช่าคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มที่โตขึ้น และค่าใช้จ่ายจะถูกเมื่อเทียบกับการเข้าพักในโรงแรม อย่างไรก็ตาม ผลจากการเปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ซึ่งกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาในเมืองพัทยา ได้ชะลอการตัดสินใจ ส่งผลต่อเนื่องถึงการตลาดคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งหมายถึงผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ ระบุถึงยอดขาย หรือความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยาที่ลดลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับภาวะปกติ โดยผู้ประกอบการประมาณ 3-5 ราย ซึ่งจะพัฒนาโครงการระดับราคาที่สูง 4 ล้านบาทขึ้นไป ได้ตัดสินใจชะลอการเปิดโครงการ เพื่อรอประเมินสถานการณ์ และกำลังซื้อในช่วงเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลการขายจะปรับตัวที่ดีขึ้นหรือไม่ ก่อนจะตัดสินใจลงทุนเปิดโครงการใหม่ ”นายชาร์ลีกล่าว
นายไมค์ บริดจ์ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอ็กแซ็กต์ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวถึงการจัดงาน พัทยา พร็อพเพอร์ตี้ โชว์ 2014 ครั้งที่ 2 ว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดช่วงหนึ่งในพัทยา เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภค โดยนิทรรศการจะจัดขึ้นที่ ณ นภาลัยคอนเว็นชั่นฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา พื้นที่ใหญ่ขึ้น 1,800 ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 3-5 ต.ค.ศก.นี้ ภายในงานจะมีผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการในพัทยามาร่วมออกบูท ประมาณ 50-60 บริษัท จำนวน 70 โครงการ 25,000 ยูนิต ซึ่งระดับราคาขายเริ่มตั้งแต่ 1.5 ล้านบาท ไปจนถึง 25 ล้านบาท คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะมากกว่าการจัดงานครั้งที่ 1 เนื่องจากขนาดพื้นที่ และบริษัทที่เข้าร่วมออกบูทมีจำนวนมากกว่า
ทั้งนี้ ในการจัดงานครั้งที่ 1 ลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 50-60% จะเป็นชาวรัสเซียที่เข้ามาชมและตัดสินใจซื้อห้องพักในโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับเป็นบ้านหลังที่สอง รองลงมาประมาณ 20-25% เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย และที่เหลือจะมีทั้งจากประเทศจีน, ญี่ปุ่น, อิรัก, อิหร่าน และชาวเม็กซิโก เป็นต้น โดยขนาดของห้องพักที่ขายดีในการจัดงานครั้งแรกจะมีอยู่ที่ 34.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน ราคาประมาณ 1.3 ล้านบาทขึ้นไป ทำเลที่ได้รับความนิยม จะเป็นโซนจอมเทียน จะเป็นลูกค้าชาวรัสเซียที่ซื้อห้องชุด และบริเวณเขาพระตำหนัก พัทยา จะเป็นชาวไทยและต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย และแนวโน้มโครงการในเขาพระตำหนักจะแพงขึ้น เนื่องจากที่ดินที่จะพัฒนามีจำกัด
