ธ.ออมสิน เตรียมเสนอบอร์ดใหม่พิจารณาผ่อนเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี และหนี้นอกระบบ หลังปล่อยสินเชื่อครึ่งปีแรกกว่า 90,000 ล้านบาท พร้อมคาดจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจไทยเดินเครื่องได้เต็มสูบ
นายธัชพล กาญนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งคณะกรรมการออมสินชุดใหม่ คาดว่าจะประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า จึงเตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อครึ่งปีหลัง หลังจากปล่อยสินเชื่อครึ่งปีแรกไปแล้วกว่า 90,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายทั้งปี 75,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายย่อย สินค้าโอทอป รองรับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบวิสาหกิจชุมชน โดยจะเสนอที่ประชุมบอร์ดออมสินพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ เช่น การพิจารณาทรัพย์ต่อทุน ความสามารถการชำระหนี้ หลักประกันสินเชื่อ ซึ่งอาจสามารถกู้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ของหลักประกัน จากเดิมอาจกู้ได้เพียงร้อยละ 70-80 ของหลักประกัน เพราะมองว่าความสามารถการชำระหนี้เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาให้สินเชื่อ รวมถึงการพิจารณาเครดิตบูโร เพราะบางคนแม้จะชำระหนี้ไปแล้ว แต่รายชื่อยังติดอยู่ในเครดิตบูโรจะนำกลุ่มคนเหล่านั้นมาปล่อยสินเชื่อได้หรือไม่ จึงต้องเสนอธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าวด้วย
นายธัชพล กล่าวว่า หากผ่อนปรนหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้จะปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเป้าหมายทั้งเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน สินเชื่อในระบบ ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท เพราะเอสเอ็มอี ปัจจุบัน 3 ล้านราย เข้าถึงแหล่งทุนได้เพียงร้อยละ 55-60 เท่านั้น หากช่วยเหลือกลุ่มดังกล่าวได้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก และยังช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของ คสช.
และเพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่มีธุรกิจเป็นของตัวเองจึงเดินหน้าส่งเสริมการประกวดแนวคิดคนรุ่นใหม่ “ออมสินจากร้อยสู่เงินล้าน” ปี 2 หลังจากมีกลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจส่งทีมเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมากกว่า 1,200 ทีม เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจแนวใหม่รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เพื่อต้องการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีธุรกิจเป็นของตนเอง ด้วยการนำความรู้มาพัฒนาสินค้าเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสินค้าโอทอป เอสเอ็มอี และเพื่อให้สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารออมสินเพิ่มเติมได้ เห็นได้จากผู้ชนะการประกวดสามารถตั้งบริษัทเป็นของตนเอง และอีกรายเสนอแนวคิดจนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทขนาดใหญ่รายหนึ่ง
