เงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปิดตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า ดัชนีพุ่งขึ้น 12 จุด ที่ 1,532.81 จุด เปลี่ยนแปลง +0.79% มูลค่าการซื้อขาย 21,165.50 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,534.47 จุด และต่ำสุดที่ 1,526.45 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่วันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างดี เกิดจากตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ก.ค.) ปรับฐาน แต่ยังไม่หลุดแนว 1,515-1,520 จุด ประกอบกับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เงินบาทได้แข็งค่า ซึ่งตอนนี้ก็มาอยู่ที่ 31.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ผ่านมา ก็ขายไปราวหมื่นล้านบาทแล้ว และยังอาจมีแรงขายเพิ่มได้อีกเนื่องจากยังมีต้นทุนที่ต่ำ
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ซึ่งปัจจัยนอกประเทศเวลานี้ในส่วนของสหรัฐฯ ก็ไม่น่าจะมีอะไรมากดดันมาก เพราะเป็นช่วงของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และหลายๆ บริษัทฯ ก็ออกมาดีเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น คาดว่าช่วงบ่าย ดัชนีน่าจะยังปรับตัวขึ้นต่อได้แต่ไม่น่าจะร้อนแรงเท่าช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,517 จุด แนวต้าน 1,535 จุด
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ ADVANC ราคาล่าสุด 208.00 บาท ปรับบวก 2.00 บาท, BLAND ราคาล่าสุด 2.16 บาท ปรับบวก 0.06 บาท, BBL ราคาล่าสุด 201.00 บาท ปรับบวก 1.50 บาท, N-PARK ราคาล่าสุด 0.09 บาท ปรับลง 0.01 บาท และ SAWAD ราคาล่าสุด 22.30 บาท ปรับบวก 0.60 บาท