“บัวทอง” สวนกระแสยอดขายทะลุเป้า

บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ เผย กำลังซื้อลูกค้าทะลัก หลังอั้นมานานจากปัญหาการเมืองทุบความเชื่อมั่น-การตัดสินใจซื้อชะงักตั้งแต่ปลายปี 2556 ระบุหลัง คสช.เข้าบริหารประเทศ การเมืองนิ่งลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ฟุ้งยอดขายกลับมาดีเกินคาดโตสวนกระแสพิษเศรษฐกิจ เชื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น มั่นใจหาก คสช.กระตุ้นเศรษฐกิจต่อครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีแน่นอน

นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และนายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างซบเซา เนื่องจากบรรยากาศทางการเมืองที่มีผู้ชุมนุมออกมาชุมนุมประท้วง และส่อเค้าว่าจะยืดเยื้อยาวนาน ทำให้ความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองและเศรษฐกิจของประชาชนลดลง ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการหลายรายต่างชะลอการเปิดโครงการใหม่ ขณะที่ผู้บริโภคก็ชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ในไตรมาสแรกของปี ยอดขายในตลาดรวมปรับตัวลดลง 30-50% โดยในไตรมาสแรก ประชาชนขาดความเชื่อมั่นอย่างมาก ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินก็มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และเมื่อเกิดรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม ยิ่งทำให้ทุกอย่างชะงัก ลูกค้ารอดูสถานการณ์ และหวั่นเกิดความรุนแรง แต่เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ผู้ชุมนุมประท้วงทั้ง 2 ฝ่ายสงบลง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็กลับมาดีขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายก็เริ่มกลับมาจัดกิจกรรมการตลาด และเปิดโครงการใหม่ ซึ่งทำให้ในช่วงต้นไตรมาส 3 นี้ตลาดกลับมาคึกคัก

“จากสถานการณ์ดังกล่าวจะเห็นว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริงของตลาดยังคงมีความต้องการในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม แต่กำลังซื้อที่หดหายไปคือกลุ่มนักลงทุนและนักเก็งกำไร ที่จะรอดูสถานการณ์เพื่อความปลอดไปไปอีกระยะ”

นายไพโรจน์ กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ ที่ดูแลในส่วนงานรับบริหารงานขายและวางแผนการตลาดโครงการนั้น กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าตัวจริงไม่ค่อยมีนักลงทุนและนักเก็งกำไร ทำให้ยอดขายในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบน้อยมาก จะมีสะดุดจริงๆเฉพาะเดือนที่เกิดรัฐประหาร ในเดือนพฤษภาคมเท่านั้น ส่วนเดือนอื่นๆก็สามารถขายได้ตามเป้าหมาย

โดยในปี 2557 นี้ บริษัท ตั้งเป้าทั้งปี 1,200 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค. 2557) ที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ 595 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยในเดือนมิถุนายนนี้ ยอดขายของกลุ่มบัวทองฯ ก็เกินเป้าที่ตั้งไว้ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้ มั่นใจว่าเศรษฐกิจกำลังเริ่มที่จะดีขึ้น และรอความชัดเจนในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถ้าเป็นได้ครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยต้องกลับมาดีขึ้นอย่างแน่นอน