“สมคิด” เชื่อหากไทยมุ่งมั่นปฏิรูปประเทศตามสัญญาไว้ และแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ทั้งสหภาพยุโรป (อียู) และนานาประเทศ จะกลับมาเชื่อมั่น และหันกลับมาหาไทย ย้ำไม่มีประเทศใดจะทิ้งประเทศไทยจริง เพราะเราเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เอื้อต่อการค้า การลงทุนในอาเซียน ลั่นขอให้ผลงานพูดแทนทุกสิ่ง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้านการต่างประเทศ และอดีตรัฐมนตรีคลัง แสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ภาคเอกชนกับอนาคตประเทศไทย” โดยระบุว่าการที่อียูระงับความร่วมมือกับไทยกรณีเหตุยึดอำนาจการปกครองประเทศนั้น เราต้องแสดงความมุ่งมั่นให้อียู และนานาประเทศเห็นว่า ประเทศไทยดูแลทุกสิ่งให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ หากไทยมีความมุ่งมั่น และจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามที่สัญญาไว้ ทั้งการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการค้าและการทุจริตคอร์รัปชัน และแรงงาน เชื่อว่าทุกประเทศจะหันกลับมาเชื่อมั่นในไทยอีกครั้ง ให้ผลงานพูดแทนทุกสิ่ง ซึ่งมั่นใจเมื่อเราเดินตามกรอบเวลา ประเทศต่างๆ จะหันกลับมาหาไทยแน่นอน ไม่มีประเทศใดจะทิ้งประเทศไทย เพราะเราเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เอื้อต่อการค้า การลงทุนในอาเซียน
นายสมคิด กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนในทิศทางที่ดีขึ้น โครงการต่างๆ สามารถเดินหน้าได้ตามปกติ จะส่งผลไม่ดีต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 และครึ่งปีหลัง ซึ่งเมื่อมีการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ความเชื่อมั่นจะกลับคืนมา แต่เรื่องสำคัญคือ ต้องปฏิรูป และแก้ปัญหาคอร์รัปชันอย่างจริงจัง โดยขอให้ภาคเอกชนจะต้องเป็นหัวเรือหลักในปฏิรูปทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ให้มีความน่าอยู่ และยั่งยืน เพราะเอกชนมีความพร้อมมากที่สุดในการขับเคลื่อน ซึ่งต้องทำตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะต้องกำจัดปัญหาคอร์รัปชันด้วยการไม่ยอมจ่ายใต้โต๊ะ เพราะหากปล่อยให้มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชันต่อไป ประเทศไทยจะถูกฉุดให้แย่ลง เชื่อว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีโอกาสแก้ไขอีกต่อไปก็ได้
ที่ปรึกษา คสช. ยังมองว่า ประเทศไทยเดินอยู่บนทาง 2 แพร่ง ไทยควรดูตัวอย่างประเทศอินโดนีเซียที่อาศัยวิกฤตให้เป็นโอกาส ยกเครื่องประเทศจนทำให้กลับมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน แต่หากเราเลือกเดินอย่างประเทศฟิลิปปินส์ ปัญหาคอร์รัปชันกัดกร่อน ทำให้ประเทศไม่เติบโต