บล.เอเซีย พลัส เตรียมส่งใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บน Sector Index ครั้งแรกในเมืองไทยเพื่อนักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาเลือกหุ้นรายตัว และยังเกาะกระแสการขึ้นลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม
น.ส.นฤมล อาจอำนวยวิภาส กรรมการผู้จัดการ บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP จากประสบการณ์หลายปีในตลาดตราสารอนุพันธ์ รวมทั้งฐานะผู้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ Derivative Warrant (DW) อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ทราบดีว่าลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการที่หลากหลาย ดังนั้น ASP จึงมุ่งมั่นในการออกผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกสไตล์การลงทุนของลูกค้า โดยครั้งนี้ ASP เอาใจนักลงทุนออก DW บน Sector Index ครั้งแรกในเมืองไทยเพื่อที่นักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาเลือกหุ้นรายตัว และยังเกาะกระแสการขึ้นลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ สามารถลงทุนจำนวนเงินน้อยกว่า และมีโอกาสทำกำไรสูงกว่าการลงทุนในหุ้นรายตัวอีกด้วย โดยเลือก 3 Sector ใหญ่ที่สุดใน SET ซึ่งเป็น sector ใหญ่ 3 อันดับแรก คิดเป็นมาร์เกตแคป รวมเกือบ 50% ของทั้งตลาดเมนูใหม่พร้อมเสิร์ฟ ครั้งนี้ ASP ขอนำเสนอ DW บน Sector Index 3 รุ่น ได้แก่ BANK08C1504A อ้างอิงหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (Banking Sector), ENER08C1504A อ้างอิงหุ้นกลุ่มพลังงาน (Energy Sector) และ ICT08C1504A อ้างอิงหุ้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Sector) ซึ่ง DW ดังกล่าวจะเริ่มซื้อขายวันแรกในวันที่ 19 มิ.ย.57 และซื้อขายวันสุดท้ายในวันที่ 30 เม.ย.58 พร้อมกันทั้งหมด
ภาพรวมหุ้นกลุ่มธนาคารยังไปได้สวย โดยโรดแมปกระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช. ทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ และการทำแผนงบประมาณสำหรับปีหน้า รวมทั้งการแต่งตั้งบอร์ด BOI ส่งผลบวกต่อการลงทุนภาคเอกชนทั้งรายใหญ่ และ SME ที่เตรียมพร้อมรับโครงการลงทุน คาดดันให้ยอดสินเชื่อเติบโตด้านหุ้นกลุ่มพลังงาน จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยภาพรวมที่เห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง คาดจะส่งผลให้ความต้องการใช้ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมี ทั้งมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
หุ้นในกลุ่มดังกล่าวมีความโดดเด่นหลายตัว เช่น PTT ที่มีแนวโน้มกำไรจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาผลิตภัณฑ์ หรือ PTTEP ที่คาดปริมาณการจำหน่ายปิโตรเลียมจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งหุ้นทั้ง 2 มีน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มพลังงานรวมถึง 69%
กรณีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภาพรวมแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่ม ICT ที่เติบโตดี จากที่กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มเห็นผลบวกจากต้นทุนสัมปทานที่ลดลง และการเตรียมประมูลคลื่น 1800 ในเดือน ส.ค.นี้