น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุ ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงชะลอลง เนื่องจากหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ +0.5% และอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.2% ถือเป็นสัญญานบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะสั้นคือ ในวันที่ 17-18 มิ.ย.จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ KGI คาดจะมีการปรับลดขนาดโครงการ QE อีก 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเมินทิศทางในระยะสั้นคาดจะยืนได้เหนือแนวรับ 1,265 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และอาจกลับมาฟื้นขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,285 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และหากทะลุผ่าน 1,285 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้จะขึ้นไปทดสอบ 1,295-1,305 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยให้แนวรับ 1,265-1,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
พร้อมคาดการณ์แนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์ระยะสั้น หากยืนได้เหนือแนวรับ 19,500 อาจปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน บริเวณ 19,760 อีกครั้ง และหากทะลุแนวต้าน 19,760 ได้อาจปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 19,930-20,050 คำนวณโดยใช้ค่าเงินบาทที่ 32.33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 32.33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศจะปรับขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำโลก
แนะนำ เปิด Long ที่แนวรับ 19,650/19,500 เพื่อปิดที่แนวต้าน 19,930/20,050 โดยให้จุด Stop loss ที่ 19,500 สำหรับคนที่ได้เปิด Long ไว้ที่บริเวณแนวรับ 19,630-19,650 แนะนำให้ปิดสถานะที่ 19,930 /20,050 โดยให้จุด Stop loss ที่ 19,500
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ : ราคาทองคำโลกชะลอลง แม้ว่าสถานการณ์อิรักทวีความรุนแรง ล่าสุด สหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้เรือ USS Mesa Verde ซึ่งเป็นเรือรบสะเทินสะเทินบก เดินทางมายังอ่าวเปอร์เซีย พร้อมทั้งส่งกองกำลังทหารกว่า 275 นาย เข้าประจำการในอิรัก เพื่อสนับสนุนด้านความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในสถานทูตอเมริกา ด้านสถานการณ์ยูเครน ผู้บริหารบริษัทแก๊สพรอม ของรัสเซีย จะหยุดส่งแก๊สให้แก่ยูเครน ยกเว้นแต่ว่ายูเครนจะได้จ่ายล่วงหน้าของแก๊ส อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ EU คาดการณ์ว่าจะมีการเจรจาใหม่อีกครั้งเพื่อหาข้อตกลงในเรื่องราคาแก๊ส โดยทาง EU จะไม่ได้รับผลกระทบจากการหยุดส่งแก๊สครั้งนี้ แม้สถานการณ์ในยูเครน และรัสเซียที่รุนแรงขึ้นถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ แต่ทองคำก็ถูกแรงขายทำกำไรกดดันราคาให้ชะลอลง