โบรกเกอร์ระบุภาพการลงทุนโครงการ 3 ล้านล้านชัดเจน ประกอบกับสามารถจัดทำงบประมาณปี 2558 ได้ทันตามกำหนด ฉุดดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยปิดตลาดช่วงเช้าไปที่ 1,465.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.78 จุด เปลี่ยนแปลง +0.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17,409.44 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดดัชนีขึ้นสูงสุด 1,469.12 จุด และลงต่ำสุดที่ 1,460.21 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน สรุปความเคลื่อนไหวหุ้นไทยช่วงเช้าว่า ดัชนีสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดเพราะนักลงทุนเริ่มเห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ด้านจิตวิทยาการลงทุนยังได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะซึมตัว และแกว่งตัวออกด้านข้าง ประกอบกับนักลงทุนยังคงรอผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC พร้อมคาดการณ์ช่วงบ่ายดัชนีเคลื่อนไหวทรงตัวต่อจากช่วงเช้า และเตือนอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะ โดยประเมินแนวรับ 1,450-1,445 จุด แนวต้าน 1,466-1,470 จุด แนะนำนักลงทุน ไม่ควรซื้อหุ้นไล่ราคา แต่หากจะลงทุน เน้นเลือกกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อสังหาฯ และพลังงานทดแทน ที่จะได้รับผลดีจากเศรษฐกิจในประเทศ
ขณะที่ นายตรีพล ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ ผลกระทบจากอิรัก ส่งผลต่อการลงทุนในตลาดระยะสั้น แต่จากเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และการอัดฉีดเม็ดเงินของญี่ปุ่น จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ประกอบกับสถานการณ์การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในประเทศไทยมีความชัดเจนขึ้น และสามารถจัดทำงบประมาณรายจ่ายในปี 2558 ได้ทันตามกรอบ ทำให้มั่นใจว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นถึงระดับ 1,550 จุดได้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,305.64 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,218.64 ล้านบาท ปิดที่ 112.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,090.77 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 609.98 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 491.90 ล้านบาท ปิดที่ 198.50 บาท ลดลง 1.00 บาท