“จาร์เค็นฯ” ต่อยอดความสำเร็จ จัดกระบวนทัพองค์กรรับการแข่งขันหลังเปิด AEC พร้อมแตกไลน์แบรนด์ใหม่ “pye” รุกตลาดออกแบบกลุ่มลูกค้าระดับกลาง อสังหาฯ รายเล็ก ร้านอาหาร อาคาร กระตุ้นรัฐเร่งส่งเสริมให้สถาปนิกไทยมีค่านิยมภายในประเทศก่อน ชี้ธุรกิจออกแบบต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งถึงจะสู้ต่างชาติได้
นายกุลเดช สินธวณรงค์ กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ตกแต่งภายใน สถาปัตยกรรมภายใน สถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง และการสร้างแบรนด์สินค้า เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต่อยอดของแบรนด์จาร์เค็น และสร้างฐานรองรับการเติบโตขององค์กร รวมถึงสร้างความพร้อมของธุรกิจในทุกๆ ด้านอย่างครบวงจร โดยทางบริษัทได้เปิดตัวบริษัท ออกแบบ พาย จำกัด (pye Design Co,.Ltd.) หนึ่งในกลุ่มบริษัทจาร์เค็นฯ ที่ได้แตกไลน์ออกมา เพื่อรองรับตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับกลาง (Mass Affluent) ที่ชื่นชอบการออกแบบที่สะท้อนบุคลิก และสไตล์ของตัวเอง และมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตามใคร
“พาย ต้องถือเป็นแบรนด์ใหม่ที่แตกออกไลน์ ซึ่ง พาย เป็นกลุ่มไฟติ้งแบรนด์ที่ออกมาทำตลาด โดยปรากฏว่า ในช่วง 8-9 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเราจะให้บริการออกแบบตั้งแต่บ้าน โครงการอสังหาฯ ระดับกลาง ร้านอาหาร และอาคารต่างๆ โดยให้อิสระแก่ลูกค้าในการเลือกใช้บริการ และการกำหนดงบประมาณการสร้างและตกแต่งบ้าน ขณะเดียวกัน พาย ได้ใช้กลยุทธ์ทางเฟซบุ๊ก สำหรับใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลังดำเนินการมาได้ครึ่งปี มีผู้กดไลก์ และติดตามสูงมาก” นายกุลเดช กล่าว
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์จาร์เค็น โดยช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ได้เปิดบริษัท ไทเกอร์ลิลลี่ จำกัด โดยเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการรับสร้างแบรนด์ และสินค้าให้แก่องค์กรที่ต้องการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้บริการผ่านสื่อต่างๆ ที่สามารถสร้างความน่าสนใจ ความแตกต่าง และอัตลักษณ์ของสินค้าและบริการ
ปัจจุบัน โครงสร้างของหน่วยธุรกิจของกลุ่มบริษัทจาร์เค็นฯ ประกอบไปด้วย หน่วยแรก บริษัท จาร์เค็น จำกัด ที่เชี่ยวชาญในการออกแบบตกแต่งภายใน และสถาปัตยกรรมซึ่งรองรับกลุ่มลูกค้าระดับบนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ตั้งแต่งานโรงแรม, ร้านอาหาร, สำนักงาน, ร้านค้า และโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนซึ่งคุณภาพผลงานได้การยอมรับจากรางวัลระดับนานาชาติเรื่อยมา
หน่วยธุรกิจที่ 2 บริษัท เจ.เค.บิวเดอร์ส จำกัด ที่เชี่ยวชาญในเรื่องงานก่อสร้างงานวิศวกรรม สถาปัตยกรรม และรับเหมาตกแต่งภายใน และผลิตเฟอร์นิเจอร์สำหรับงานก่อสร้างโครงการต่างๆระดับบน โดยทีมงานที่มีประสิทธิภาพและชำนาญงาน พร้อมโรงงานผลิตที่มีเครื่องจักรและเครื่องมืออันทันสมัยมีประสิทธิภาพ และหน่วยธุรกิจ 3 และ 4 ที่ระบุไปข้างต้น
“การเปิด AEC จะยิ่งส่งผลให้การแข่งขันรุนแรง และแนวทางที่เราวางไว้ ก็ผลักดันให้องค์กรเดินไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเรามั่นใจในความพร้อมกับการเปิด AEC เพราะเรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ประเทศไทยยังขาดอยู่ ดังนั้น รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยว จะต้องพยายาม และส่งเสริมให้สถาปนิกไทยที่มีค่านิยมในไทยก่อน และแบรนด์ของธุรกิจไทยจะต้องแข็งแกร่ง จึงจะสามารถแข่งขันได้”
ในด้านของผลการดำเนินงานนั้น คาดว่าตัวเลขรายได้ในปี 57 จะใกล้เคียงกับปี 56 ที่สามารถทำได้ 500 ล้านบาท ปัจจุบันมีมูลค่าโครงกาารในมือประมาณ 4,000 ล้านบาท