“มั่นคง” เชื่อครึ่งปีหลังสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าลงทุนโครงการแนวราบครึ่งปีหลังเปิด 4 โครงการมูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท เผยยอดขาย 5 เดือน ขายได้ 800 ล้านบาท มั่นใจอีก 9 เดือนอีกปั้นรายได้เพิ่ม 1,600 ล้านบาท ตามเป้า 2,800 ล้านบาท ด้าน “ลลิล” เชื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้น พร้อมเดินหน้ารุกตลาดครึ่งปีหลัง เปิด 6-8 โครงการ มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท มุ่งขยายสู่ต่างจังหวัดหวังรองรับเปิด AEC ยืนยันคงเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่ 2,700 ล้านบาท และมียอดขาย 2,700 ล้านบาท
น.ส.ชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายบัญชี-การเงิน บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) MK เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจพบโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 1/57 มีจำนวน 20,407 ยูนิต เป็นโครงการแนวราบ 8,547 ยูนิต เปิดตัวลดลง 20% เมื่อเทียบกบช่วงเดียวกันของปี 56 ส่วนคอนโดมิเนียม เปิดตัว 11,860 ยูนิต เปิดตัวลดลงถึง 51%
นอกจากนี้ ยังพบว่ายอดขายคอนโดฯ ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 56 คอนโดฯ เปิดขายใหม่ 84,250 ยูนิต ขายได้ 53,559 ยูนิต เหลือขาย 30,691 ยูนิต และหากแยกเป็นรายไตรมาสจะพบว่ามีคอนโดฯ เหลือขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไตรมาส 4/56 คอนโดฯ เปิดใหม่ 21,211 ยูนิต ขายได้ 10,987 ยูนิต เหลือขาย 10,224 ยูนิต ในไตรมาส 1/57 คอนโดฯ เปิดใหม่ 11,860 ยูนิต ขายได้เพียง 3,613 ยูนิต ขณะที่ยอดเหลือขายสูงถึง 8,247 ยูนิต สะท้อนให้เห็นว่าคอนโดฯ เข้าสู่ภาวะ โอเวอร์ซัปพลาย
“ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปัญหาการเมืองที่จบลง ความชัดเจนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น”
ดังนั้น เพื่อให้การลงทุนสอดคล้องกับภาวะตลาด ในช่วงครึ่งปีแรกจึงไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่ แต่จะมาเปิดในช่วงครึ่งหลังของปี โดยมีแผนลงทุนเฉพาะโครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการลีออง สุขุมวิท 62 ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 58 ยูนิต มูลค่า 430 ล้านบาท โครงการเบลล์พาร์ค ชวนชื่นซิตี้ รามอินทรา เป็นบ้านเดี่ยว 105 ยูนิต มูลค่า 445 ล้านบาท โครงการชวนชื่นโมดัส วิภาวดี ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว 246 ยูนิต มูลค่า 1,715 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว ย่านเอกมัย 91 ยูนิต มูลค่า 710 ล้านบาท
ส่วนยอดขาย 5 เดือน อยู่ที่ 875 ล้านบาท โดยมาจากแนวราบเป็นหลัก ทั้งนี้ มั่นคงฯ มียอดรอโอนที่ 1,100 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 760 ล้านบาท แม้ว่ายอดขายดังกล่าวจะต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 2,800 ล้านบาท แต่จากแบ็กล็อกที่จะรับรู้ในปีนี้ รวมถึงโครงการเปิดใหม่และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 15 โครงการ ซึ่งมียูนิตเหลือขาย 1,000 ยูนิต มูลค่า 3,900 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ในส่วนที่เหลือ 1,600 ล้านบาท เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายได้ภายในช่วง 9 เดือนที่หลืออย่างแน่นอน
“ลลิล” เผยเล็งบุก ตจว.
นายกร ธนพิพัฒนศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปียังเดินหน้าเปิดโครงการตามแผนที่วางไว้ 6-8 โครงการ มูลค่า 4,500 ล้านบาท เปิดแล้ว 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท คือ โครงการทาวน์โฮม ไลโอ ที่บางพระ ฉะเชิงเทรา และโครงการ แลนซิโอ นอฟ คู้บอน เป็นโครงการมิกซ์ยูส บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะขยายโครงการในต่างจังหวัดมาขึ้น เช่น ทางภาคตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ มองว่ามีศักยภาพที่จะขยายตัวจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ที่ผ่านมา มีการลงพื้นที่ เช่น ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น นอกจากนี้ เตรียมงบซื้อที่ดินใหม่ 800-900 ล้านบาท
“ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3,200 ล้านบาท รายได้ 2,700 ล้านบาท มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ 1,100 ล้านบาท สัดส่วนเป็นโครงการแนวราบ 40% และคอนโดมิเนียม 60% โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทยังมียอดขายตามเป้าหมาย และมียอดรับรู้รายได้ 1,100 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้ไตรมาส 2/57 ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่มีรายได้ 655.60 ล้านบาท ขณะที่คงเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่ 2,700 ล้านบาท โดยจะมาจากการรับรู้รายได้จากยอดขายยรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังคงเป้ายอดขายทั้งปีที่ 3,200 ล้านบาท ซึ่งยอดขาย 5 เดือนที่ผ่านมา ยังคงเป็นไปตามเป้า