น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป สรุปภาพรวมความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นว่า สามารถแกว่งตัวในแดนบวก แต่มีแรงขายทำกำไรระหว่างทางทำให้ปิดภาคเช้าปรับ +3.39 จุด มาที่ 1,456.55 จุด หลัง ECB มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วงบ่ายเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่ในประเทศหนุน จึงไม่สามารถรขยับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จึงยังคงแกว่งในกรอบต่อไป จนปิดตลาดที่ 1,458.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด เปลี่ยนแปลง +0.33% มูลค่าการซื้อขาย 45,391.52 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,463.06 จุด และต่ำสุดที่ 1,455.49 จุด
พร้อมคาดการณ์สัปดาห์หน้าว่า ช่วงต้นสัปดาห์หน้าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยจะขยับขึ้นช่วงกลางสัปดาห์รับข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และลุ้นรายชื่อคณะรัฐบาล จึงคงคำแนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี เพื่อลุ้นเงินทุนต่างชาติไหลกลับตลาดเกิดใหม่จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ECB ขณะเดียวกัน ยังคงต้องระวังแรงทำกำไรหุ้นใหญ่ที่ปรับขึ้นมาแรง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายเร่งด่วน
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
1.KTB ปิดที่ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,243.43 ล้านบาท
2.TAE ปิดที่ 5.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,799.95 ล้านบาท
3.SCB ปิดที่ 167.00 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,712.39 ล้านบาท
4.TRUE ปิดที่ 7.25 บาท ลดลง -0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,480.39 ล้านบาท
5.PTTGC ปิดที่ 67.00 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,211.15 ล้านบาท
