ตลาดฯ จับตาการผลักดันมาตรการ ศก. และความคืบหน้า คาด นลท. เตรียมโยกกลุ่มเก็งกำไร

โบรกฯ ชี้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องถึง 6% ถึงจุดพักฐาน นักลงทุนหันไปจับตาถึงการดำเนินงานนโยบายด้านเศรษฐกิจต่างๆ จะมีการผลักดันให้ดำเนินงานเดินหน้าได้ไปมากน้อยเพียงใด แนวโน้มระยะต่อไป คาดมีโยกเงินเก็งกำไรกลุ่ม “พลังงาน-ประกันภัย” พร้อมเตือนกลุ่ม “Domestic Play” อาจเจอแรงขายทำกำไร

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงายวิจัย บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นไทยอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6% นับตั้งแต่มีการประกาศรัฐประหาร ด้วยแรงคาดหวังถึงความสงบจากปัญหาการเมือง ตลอดจนการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งจะเห็นว่าแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจนั้นไม่ได้ต่างไปจากรัฐบาลชุดก่อนมากนัก ส่งผลให้ตลาดตอบรับประเด็นดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว ดังนั้น นักลงทุนจึงจับตาถึงการดำเนินงานนโยบายด้านเศรษฐกิจต่างๆ ว่าจะมีการดำเนินงานไปมากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ ดัชนีฯ ตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนค่า PE ของหุ้นไทยอยู่ประมาณ 15 เท่า จึงเป็นจุดที่จะเห็นแรงขายปรับฐานของตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ตาม การปรับฐานจะเป็นรูปแบบของการเคลื่อนไหวออกด้านข้าง (Sideway) ก่อนในช่วงสั้น แล้วค่อยๆ ปรับบวกต่อในท้ายที่สุด

ปัจจัยต่างประเทศ การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) 5 มิ.ย. นี้ คาดว่าจะมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่จะไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะหุ้นไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นพอสมควร

โดยแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ คาดตลาดหุ้นไทยปรับฐานต่อในช่วงสั้น จากก่อนหน้านี้มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) อาจจะทำให้เห็นแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มนี้ แล้วเกิดการโยกไปเก็งกำไรในหุ้นที่ยัง laggard อยู่ เช่น กลุ่มพลังงาน และกลุ่มประกันภัย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTT, PTTEP, PTTGC หรือ BTS, AOT โดยประเมินแนวรับ 1,440 จุด แนวต้าน 1,455-1,460 จุด