ตลท.มั่นใจแผนการระดมบริษัทจดทะเบียนใหม่เป็นไปตามเป้าหมาย 2.1 แสนล้าน เนื่องจากสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจดีขึ้น แย้มมีบริษัทยื่นไฟลิ่งจ่อคิวเข้าตลาดหุ้นอีกกว่า 10 ราย ด้านราคาหุ้น TAE เทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง 180%
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าส่งเสริมบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นตามเป้าหมาย โดยคาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนใหม่ 210,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีบริษัทกว่า 10 แห่ง กำลังยื่นข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่ง ตลท.มั่นใจว่า บริษัทต่างๆ ยังคงแผนการเข้าระดมทุนตามแผนเดิม
ทั้งนี้ เนื่อจากมองว่าสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นบริษัท ไทยอะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE เปิดเทรดภาควันแรกในภาคเช้าที่ระดับ 4.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.80 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 140 จากราคาขาย IPO ที่ 2.00 บาท และเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายเอทานอลเชิงพาณิชย์รายแรกของไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ด้านนายสมชาย โล่ห์วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ กล่าวว่า ราคาหุ้น TAE ที่เข้าซื้อขายวันแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีทิศทางการเติบโต จากการเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายเอทานอลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง คาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตสูงจากการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพ เพื่อนำไฟฟ้าที่ได้มาใช้ในกระบวนการผลิตเอทานอล ทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้
พร้อมกันนี้ ยังคาดการณ์ว่ายอดขายเอทานอลทั้งปีนี้จะเติบโตตามปริมาณการใช้เอทานอลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามนโยบายการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และการยกเลิกใช้เบนซิน 91 คาดว่าจะมีการใช้เอทานอลเพิ่มจาก 3 ล้านลิตร/วัน เป็น 5 ล้านลิตร/วัน ซึ่งอยากเห็นการส่งเสริมนโยบายการใช้พลังงานทดแทนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ TAE เปิดเผยว่า การที่หุ้น TAE ได้รับการตอบรับอย่างสูงจากนักลงทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน มีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ
รวมถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงในอนาคต ประกอบกับการที่ผลประกอบการ Q1/57 ของบริษัทมีการเติบโตที่โดดเด่นทั้งด้านรายได้ และกำไรสุทธิ โดยมีกำไรสุทธิ 102.20 ล้านบาท นอกเหนือจากนี้แล้ว การระดมทุนในครั้งนี้ รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ TAE มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งยังทำให้บริษัทมีช่องทาง หรือทางเลือกในการระดมทุนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการขยายธุรกิจของ TAE ในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ การปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 180 จากราคาจองที่ 2 บาท ถือว่าเป็นการปรับเพิ่มอย่างโดดเด่น และต้องถือว่าสภาวะของตลาดหุ้นไทยในตอนนี้มีปัจจัยเชิงบวกหลายด้านมาสนับสนุน จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้การซื้อขายหุ้นในวันนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TAE เปิดการซื้อขายวันนี้ ที่ระดับราคา 4.80 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 140 จากราคาจอง 2 บาท/หุ้น ก่อนจะปรับขึ้นมาทำราคาสูงสุดของวันที่ 5.80 บาท/หุ้น หรือร้อยละ 190 และปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 5.60 บาท/หุ้น ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาจอง IPO ร้อยละ 180 โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 5,684.02 ล้าน