ILINK เล็งเพิ่มเป้ารายได้-กำไรปีนี้ หลังไตรมาสแรกทำได้สูงกว่าเป้าหมาย ตั้งเป้าเพิ่มอัตรากำไรสุทธิทั้งปีเป็นเลข 2 หลัก ยืนยันแผนย้ายเข้า SET กลางปี 58 พร้อมเข็นบริษัทลูกเข้าตลาดปี 59
นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น หรือ ILINK กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมปรับเพิ่มเป้ารายได้ในปีนี้เป็น 2,400 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 2,300 ล้านบาท และเป้ากำไรสุทธิมากกว่า 200 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ 198 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุในการปรับเพิ่มเป้าดังกล่าวมาจากรายได้ และกำไรในช่วงไตรมาสแรกที่ทำได้สูงกว่าเป้าหมาย ทั้งจากธุรกิจเกี่ยวกับการวางสายเคเบิลโครงข่าย 3G และดิจิตอลทีวี ที่มีการเติบโตขึ้นกว่า 10-20% และการรับรู้รายได้จากโครงการวางสายเคเบิลใต้น้ำ และการรับรู้รายได้จากบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยที่ในปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมืออยู่ที่ 1,200 ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 600-800 ล้านบาท
“ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มกำไรสุทธิขึ้นเป็นเลข 2 หลัก จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 8.5% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสามารถทำให้สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ 21% เนื่องจากปีนี้บริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจเทเลคอม ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 47% โดยจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิรวมทั้งหมดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทเลคอมจะอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในปีต่อไป โดยเป้าหมายทั้งรายได้ และกำไร ณ ตอนนี้ยังเป็นเป้าเดิมอยู่ แต่เราเชื่อว่าปีนี้เราจะทำได้ดีกว่าเป้าที่วางไว้ ซึ่งตอนนี้ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการของรายได้จะอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท และกำไรสุทธิมองว่าจะมากกว่า 200 ล้านบาท แต่เราขอดูผลงานในครึ่งปีแรกก่อนจะทำให้เห็นความชัดเจนในการปรับเพิ่มเป้าในช่วงครึ่งปีหลัง”
อย่างไรก็ดี ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนประมูลงานเอกชนมูลค่างานประมาณ 400 ล้านบาท โดยเป็นงานที่ได้รับการอนุมัติแล้ว รวมถึงบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากการที่ คสช.จะมีการเร่งอนุมัติโครงการของภาครัฐขนาด 100-500 ล้านบาท ของปีงบประมาณ 2558 ภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยบริษัทฯ มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานทันทีหลังจากที่มีการอนุมัติโครงการ ขณะที่ปัญหาการเมืองไม่ได้กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ รับงานโครงการสิ้นเปลืองที่มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนงานการย้ายตลาดเข้าจดทะเบียนใน SET ซึ่งบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนอีก 30 ล้านบาท ในการย้ายเข้า SET ปี 2558 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 270 ล้านบาท และมีมาร์เกตแคปราว 3,000 ล้านบาท โดยจะมีการประชุมกับที่ปรึกษาทางการเงินว่าจะใช้แนวทางไหนในการเพิ่มทุนที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นที่สุด
“บริษัทฯยังคงแผนในการย้ายเข้า SET และนำบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2559 เนื่องจากในปัจจุบัน ทั้งนักลงทุนต่างชาติ และกองทุนสนใจเข้ามาลงทุน เนื่องจากธุรกิจของเรามีความพร้อม และมีทิศทางการเติบโตในระยะยาว ซึ่งการเทรดในตลาด mai จะทำให้นักลงทุนเข้าถึงได้ยาก”