น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุราคาทองคำระยะสั้นคาดจะชะลอลงไปทดสอบแนวรับ 1,285-1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สลับเด้งฟื้นไปที่แนวต้าน 1,300-1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม รูปแบบราคาแกว่งตัวเป็นสามเหลี่ยม และเริ่มบีบเข้าสู่ช่วงปลายสามเหลี่ยม ทำให้เมื่อมีการทะลุข้างใดข้างหนึ่งอาจปรับขึ้นลงแรงได้ แต่เนื่องจากในระยะสั้นยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญออกมา ทำให้อาจจะแกว่งตัวในกรอบไปก่อน
ส่วนแนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์ ระยะสั้นว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 19,860-20,350 บาทต่อน้ำหนักทองหนึ่งบาท โดยอาจลงมาทดสอบแนวรับ 19,980-19,860 บาทต่อน้ำหนักทองหนึ่งบาท คำนวณโดยใช้ค่าเงินบาทที่ 32.45 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทจะยังคงอ่อนค่าลง ประเมินว่าในระยะสั้นจะแกว่งตัวในกรอบ 32.40-32.65 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ จะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศจะขึ้นดีกว่าราคาทองคำโลก
คำแนะนำการลงทุน แนะนำเปิด Short ที่แนวต้าน 20,180/20,350 เพื่อปิดที่แนวรับ 19,980/19,860 โดยให้จุด Stop loss ที่ 20,350 สำหรับคนที่ได้เปิด Short ไว้ที่แนวต้าน 20,150 แนะนำให้ปิดสถานะที่ 19,980/19,860 โดยให้จุด Stop loss ที่ 20,350
ภาวะตลาดทองคำโลก : ราคาทองคำโลกแกว่งตัวลงในกรอบ 1,286-1,295 หลังจากยอดขายบ้านใหม่ในเดือน เม.ย.ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ด้านการเลือกตั้งประธานาธิปดียูเครน ผ่านพ้นได้ด้วยดีไม่มีเหตุปะทะรุนแรง ผลเอ็กซิทโพลล์ระบุ นายเปโตร โปโรเชนโก ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิปดียูเครน ด้วยคะแนนเสียง 55.9% สถานะการณ์ทางการเมืองในยูเครนน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยลบเล็กน้อยต่อทิศทางราคาทองคำ หากไม่มีเหตุการณ์ปะทะรุนแรง หรือสงครามกลางเมือง ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมานัก แต่ประเมินว่าทิศทางหลักของค่าเงินดอลลาร์น่าจะแข็งค่าขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับยูโร จากที่ธนาคารกลางยุโรปอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติมในการประชุมเดือน มิ.ย. ซึ่งจะส่งผลลบต่อทิศทางของราคาทองคำ ทั้งนี้มีปัจจัยที่ต้องติดตามระยะสั้นคือ สถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน