“บมจ.มาสเตอร์ แอด” ได้เซ็นสัญญาต่อสิทธิสัมปทานการเช่าพื้นที่เสาตอม่อ BTS ออกไปอีก 16 ปี ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางรายได้ของ MACO ในระยะยาว เตรียมเพิ่มสื่อโฆษณาแบบดิจิตอลใน 21 สถานี จำนวนรวม 40 ป้าย ซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมขายสื่อโฆษณาให้ลูกค้าจองซื้อพื้นที่ได้ประมาณปลายปีนี้
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ยืนยันว่า การที่บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรืด VGI เข้ามาลงทุนหุ้น MACO จำนวน 24.43% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระแล้วทั้งหมดของ MACO นั้น ได้ช่วยหนุนศักยภาพการทำตลาดสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยของ MACO ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ล่าสุด บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาต่อสิทธิสัมปทานการเช่าพื้นที่เสาตอม่อ BTS ออกไปอีก 16 ปี ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางรายได้ของ MACO ในระยะยาว โดยภายใต้สัญญาในครั้งนี้ MACO ยังได้รับสัมปทานพื้นที่สื่อโฆษณาเสาตอม่อ BTS ในเส้นทางส่วนต่อขยาย ในกรณีที่ BTS ได้มีการขยายเส้นทาง หรือได้รับสิทธิในการบริหารรถไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
“ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ MACO และ VGI สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านฐานลูกค้าระหว่างกัน และร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กัน ซึ่งการต่อสัญญาสิทธิสัมปทานการเช่าพื้นที่สื่อโฆษณาเสาตอม่อ BTS ออกไปอีก 16 ปีครั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีที่สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างกัน โดยสุดท้ายแล้ว นักลงทุนที่ถือหุ้นของ MACO และ VGI จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการผนึกกำลังร่วมกัน” นายนพดล กล่าว
พร้อมกันนี้ นายนพดล กล่าวถึงแนวทางบริหารสัมปทานพื้นที่สื่อโฆษณาเสาตอม่อ BTS ว่า บริษัทฯ มีแผนเพิ่มสื่อโฆษณาแบบดิจิตอลใน 21 สถานี จำนวนรวม 40 ป้าย ซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมขายสื่อโฆษณาให้ลูกค้าจองซื้อพื้นที่ได้ประมาณปลายปีนี้ โดยคาดว่าหลังเพิ่มป้ายโฆษณาดิจิตอลทั้งหมดแล้ว จะสามารถสร้างความน่าสนใจให้แก่ลูกค้าที่ต้องการจองพื้นที่สื่อ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่พื้นที่ป้ายโฆษณาตอม่อ BTS มากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากสื่อดังกล่าวเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้จากสื่อป้ายโฆษณาตอม่อ BTS กว่า 200 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน MACO จะสามารถสร้างรายได้ และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/57 บริษัทฯ มีรายได้ 173.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 44.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.43% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากที่ MACO สามารถรักษาอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณา (Occupancy Rate) อยู่ใน 70% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการต้นทุนป้ายโฆษณาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นตามนโยบายของบริษัทฯ ให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 50%
