บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ผนึก ฟาร์ พาร์ทเนอร์ชิป ครองสิทธิขายโฆษณา “ไทยแอร์เอเชีย” นาน 3 ปี ขณะที่โบรกเกอร์แนะนำ “ถือ” เนื่องจากรายได้สื่อโฆษณาในโมเดิร์น เทรด ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และการเมืองเกินคาด
นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ร่วมลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับนาย Marcus Wight ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาร์ พาร์ทเนอร์ชิป จำกัด หรือ Phar และไทยแอร์เอเชีย โดยแต่งตั้งให้ VGI ทำหน้าที่ผู้จัดจำหน่ายสื่อโฆษณาบนเครื่องบินแอร์เอเชีย ของบไทยแอร์เอเชียทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวเป็นระยะเวลา 3 ปี อีกทั้งความร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ VGI สามารถขยายเครือข่ายการรับชมสื่อให้แก่กลุ่มผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชียเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 ล้านคนต่อปี ซึ่งรวมถึงฐานผู้ชมสื่อไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียที่สายการบินแอร์เอเชียมีเส้นทางบินอีกด้วย
ปัจจุบัน ไทยแอร์เอเชียให้บริการเที่ยวบิน 803 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ไปยัง 36 จุดหมายปลายทางทั้งใน และต่างประเทศ โดยในปี 2556 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้บริการสายการบินสูงถึง 10.5 ล้านที่นั่ง และคาดว่าในปี 57 จะมีการรับมอบเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A320 เพิ่มอีก 8 ลำ ซึ่งจะทำให้รองรับจำนวนผู้ใช้บริการได้มากขึ้น
ด้านนายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว VGI จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนขายสื่อโฆษณาทั้งภายนอก และภายในเครื่องบินให้แก่สายการบินไทยแอร์เอเชีย แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งแม้ว่าสื่อบนเครื่องบินเป็นสื่อที่ค่อนข้างใหม่สำหรับบริษัทฯ แต่มีลักษณะใกล้เคียงกับสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ประกอบกับทีมขายของ VGI ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ จึงมั่นใจว่า VGI จะสามารถสร้างรายได้จากสื่อโฆษณาให้แก่ไทยแอร์เอเชียได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
“บริษัทได้เป็นผู้แทนขายแต่เพียงผู้เดียวบนเครื่องบินของไทยแอร์เอเชีย ส่วนหนึ่งเพราะชอบนโยบายที่ไทยแอร์เอเชียพยายามบริหารจัดการสายการบินที่ทำให้ “ใคร ใคร ก็บินได้” ตรงกับคอนเซ็ปต์ของบีทีเอส และระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ที่ช่วยให้ทุกคนเดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างคุ้มค่า และรวดเร็ว นอกจากนั้น การลงนามครั้งนี้ทำให้ VGI มีโครงข่ายสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมทั้งทางบก และทางอากาศ เชื่อว่าคงมีไม่กี่บริษัทในโลกที่มีเครือข่ายโฆษณานอกบ้านครอบคลุมได้เทียบเท่า VGI” นายมารุต กล่าว
ด้านนาย Marcus Wight ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาร์ พาร์ทเนอร์ชิป จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพการดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาของ VGI จึงได้เลือกให้เป็นผู้แทนขายสื่อโฆษณา เนื่องจากเห็นผลงานด้านการขายจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน และห้างโมเดิร์นเทรดที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุด จึงมั่นใจว่าการร่วมมือกับ VGI ในครั้งนี้จะสามารถช่วยเพิ่มรายได้สื่อโฆษณาให้แก่บริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี และสอดคล้องกับเป้าหมายของ VGI ที่ต้องการขยายฐานผู้ชมสื่อโฆษณาเช่นกัน
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ถือ” บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ราคาเป้าหมาย 10.0 บาทต่อหุ้น พิจารณาจากกำไรสุทธิไตรมาส 4Q56/57 (สิ้นสุด มี.ค.57) อยู่ที่ 193 ล้านบาท ลดลงทั้ง 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันและลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2555 ต่ำกว่าฝ่ายวิจัยคาด 30% สาเหตุหลักเป็นผลกระทบที่เกิดจากปัญหากำลังซื้อซบเซาเพราะการเมืองที่วุ่นวาย และผลของฤดูกาล รายได้สื่อโฆษณาโมเดิร์น เทรด ซึ่งมีสัดส่วน 34% ของรายได้รวม ทรุดตัวลง 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ขณะที่รายได้สื่อโฆษณาใน BTS ซึ่งมีสัดส่วนถึง 62% ของรายได้รวม แม้ได้ประโยชน์พื้นที่โฆษณาตู้รถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 14% หรือเท่ากับ 20 ตู้ ตั้งแต่ ธ.ค.56 เต็มไตรมาส แต่ถูกหักล้างทั้งหมดจากอัตราใช้บริการพื้นที่สื่อประเภทอื่นในระบบที่ลดลง เป็นผลให้รายได้จากระบบ BTS ลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ส่งผลให้รายได้รวม 4Q56/57 ลดลง 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน มาอยู่ที่ 641 ล้านบาท ผ่านจุดต่ำสุด คาดค่อยๆ ฟื้นตัวหนุนกำไรปี 57/58
อย่างไรก็ตาม บล.เอเซีย พลัส คาดว่า ธุรกิจโฆษณาได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว จากนี้คาดอัตราใช้บริการน่าจะฟื้นตัวเป็นลำดับ ขณะเดียวกัน ช่วงปลายไตรมาส 1Q56/57 ถึงไตรมาส 2Q56/57 เป็นเทศกาลบอลโลก ประกอบกับทิศทางของธุรกิจโฆษณาจะเริ่มปรับตัวดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3Q56/57 จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิในปีบัญชี 2557/58 (สิ้นสุด มี.ค.58) ของ VGI จะมีแนวโน้มต่ำกว่าประมาณการกำไรปี 2557/58 ที่ 1.4 พันล้านบาท ไม่เกิน 5% ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการเดิม โดยคาดกำไรปี 2557/58 จะเติบโตขึ้น 26%yoy แต่ราคาหุ้น VGI ตอบรับปรับตัวขึ้นจากต่ำสุดแล้ว 42% และสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานฝ่ายวิจัย 15% อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวไม่รวมโครงการใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทยังไม่เปิดเผยแผนงาน เช่น สื่อในระบบทางด่วน จอ LED ขนาดยักษ์ รวมถึงดีลที่ยังไม่เซ็นสัญญา เช่น พื้นที่ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า (คาดชัดเจนขึ้นในการประชุมนักวิเคราะห์ศุกร์นี้) ซึ่งอาจเป็นผลให้ฝ่ายวิจัยทบทวนปรับเพิ่ม Fair Value จึงยังแนะนำ “ถือ” แต่ผลตอบแทนช่วงสั้นที่จำกัด