การเมืองที่ยังไร้ข้อสรุป ฉุดตลาดหุ้นไทยไปไม่แรงแม้รีบาวนด์ได้ถึง 10 จุด แต่แรงขายท้ายตลาดกดดัชนีอ่อนตัวลงปิดที่ 1,402.92 จุด บวก 8.23 จุด เปลี่ยนแปลง +0.59 % มูลค่าการซื้อขาย 34,120.44 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุที่ 1,406.34 จุด และต่ำสุดที่ 1,393.26 จุด โบรกเกอร์คาดหากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายลง ดัชนีพุ่งต่อเนื่อง
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยทั้งวันสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมูลค่าการซื้อขายเริ่มรองรับ คาดว่าจะเป็นผลจากการหารือของตัวแทน 8 ฝ่ายกับรัฐบาลที่แม้ไม่มีข้อสรุป แต่ทำให้บรรยากาศทางการเมืองผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 3,061.69 ล้านบาท เห็นได้จากหุ้นในกลุ่มแบงก์ยังปรับตัวลง โดยแรงซื้อวันนี้มาจากนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อสุทธิถึง 2,328.25 ล้านบาท ตามด้วยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 555.07 ล้านบาท
พร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีวันพรุ่งนี้ว่า นักลงทุนไทยเริ่มมีความหวังว่าการเมืองจะได้ข้อสรุปที่ดี และมีทางออกให้แก่ประเทศ ทั้งนี้ ในการเจรจาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบ กับตัวแทนรัฐบาล จะมีผลไปในทิศทางใด โดยประเด็นสำคัญยังเป็นเรื่องการจัดตั้งนายกฯ คนกลาง และการเลือกตั้ง ขณะที่ต่างชาติได้ขายสุทธิเพราะมีกองทุนหลายกองทุนที่ติดกฎข้อบังคับห้ามเข้าลงทุนในตลาดหุ้นประเทศที่ประกาศกฎอัยการศึก ประกอบกับค่าเงินบาทผันผวน ทั้งนี้หากสามารถคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง และยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง ดัชนีมีเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,400-1,410 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ICHI มูลค่าการซื้อขาย 1,694.73 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.05 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,613.08 ล้านบาท ปิดที่ 190.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,539.43 ล้านบาท ปิดที่ 185.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,516.25 ล้านบาท ปิดที่ 237.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,363.81 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
