โบรกฯ แนะลงทุนหุ้น “นำเข้า-ตัดออก” คำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่ ชี้ราคาหุ้นมักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังการประกาศไปจนกระทั่งถึงวันเริ่มใช้ข้อมูลจริง ยันให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าตลาด 11%
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา MSCI ได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ถูกนำเข้าและตัดออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Thailand รอบใหม่ โดยดัชนีกลุ่มหลัก (MSCI Global Standard Index) หุ้นที่ถูกนำเข้า ได้แก่ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ไม่มีหุ้นที่ถูกตัดออก
ส่วนดัชนีกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก (MSCI Global Small Cap Index) หุ้นที่ถูกนำเข้าได้แก่ บมจ.เจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI), บมจ.มก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA), บมจ.นามยง เทอร์มินัล (NYT), บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น (TTCL) ส่วนหุ้นที่ถูกตัดออก ได้แก่ BH, บมจ.จีสตีล (GSTEL), บมจ.แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (GRAMMY), บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (SITHAI), บมจ.สหโมเสคอุตสาหกรรม (UMI) โดยจะมีผลวันที่ 30 พ.ค.2557
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนสำหรับหลักทรัพย์ที่ถูกนำเข้าและตัดออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Thailand รอบใหม่ โดยระบุว่าจากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551 พบว่า ราคาหุ้นที่ถูกนำเข้าและตัดออกจากการคำนวณมักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหลังการประกาศ (Announcement date) ไปจนกระทั่งถึงวันเริ่มใช้ข้อมูลจริง (Effective date)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่ถูกนำเข้าและตัดออก ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าตลาด 11% ในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเจาะจงเฉพาะการประกาศรอบล่าสุดเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จะพบว่าการปรับตัวขึ้น (Outperform) ของหุ้นที่ถูกนำเข้าดัชนี MSCI Global Standard Index มีรอบระยะเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์หลังจากการประกาศผลเท่านั้น ขณะที่หุ้นที่ถูกนำเข้าดัชนีจะมีระยะเวลาการ Outperform อย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วง 1 สัปดาห์หลังจากวันเริ่มใช้ข้อมูลจริง