“เอเชีย กรีน เอนเนอจี” หรือ AGE ปลื้มยอดขายถ่านหินไตรมาส 1/57 แตะระดับ 1,868.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.49% เหตุบริษัทฯ ขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น ประกอบกับดีมานด์ความต้องการใช้ถ่านหินจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารประกาศเดินหน้าเร่งขยายตลาดต่อเนื่อง หวังปั้นยอดขายต่างประเทศครึ่งปีแรก 1,000,000 ตัน ตั้งเป้าปีนี้รายได้ทั้งปี 57 แตะ 7,000 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส ซึ่งเป็นถ่านหินสะอาด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/2557 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 1,868.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 82.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,023.86 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มียอดขายถ่านหินอยู่ที่ 980,000 ตัน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 31.75 ล้านบาท
สาเหตุที่บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ประมาณการยอดขายในต่างประเทศช่วงครึ่งปีแรกไว้ที่ระดับ 1,000,000 ตัน เพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2556 ที่มีปริมาณยอดขาย 540,000 ตัน ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมภายในปีนี้ไว้ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท
นายพนม กล่าวถึงกลยุทธ์ปี 2557 ว่า จะเร่งขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในจีน เพราะยังคงมีความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากสัดส่วนการนำเข้าถ่านหินในประเทศดังกล่าว เฉลี่ย 300 ล้านตันต่อปี ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ให้เพิ่มขึ้นเป็น 50% จากยอดขายทั้งหมด จากปี 2556 ที่มีสัดส่วนประมาณ 34% ขณะที่ในประเทศ อยู่ที่ 66% ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของจีนยังคงขยายตัว แม้ว่าจะเป็นการขยายตัวแบบชะลอตัวลงก็ตาม
“บริษัทฯ ประมาณการยอดขายในต่างประเทศช่วงครึ่งปีแรกไว้ที่ระดับ 1,000,000 ตัน เพิ่มขึ้น 85.18% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2556 ที่มีปริมาณยอดขาย 540,000 ตัน ส่งผลให้ปีนี้ บริษัทฯ คาดการรายได้รวมที่ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 5,068 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในธุรกิจถ่านหินครึ่งปีหลังยังคงเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ดังนั้น สิ่งที่บริษัทฯ มุ่งเน้นคือ การลดต้นทุนและขยายยอดขาย รวมถึงหาโอกาสในธุรกิจที่จะช่วยเสริมสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น และลดความผันผวนจากราคาสินค้า commodity คือ การลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล” นายพนม กล่าว