“คลัง” ยังกัดฟันไม่ขึ้นภาษีชดเชยรายได้ หวั่นซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจซบเซา “บัญชีกลาง” ฟุ้งเบิกจ่ายงบกระตุ้น ศก.ไหลลื่น 7 เดือน ส่วนราชการลุยใช้เงินทะลุเป้า 1.42 ล้านล้านบาท
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในช่วงรัฐบาลรักษาการจะไปขึ้นภาษีเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปเป็นไปได้ยาก เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้คงไม่เหมาะที่จะปรับขึ้นภาษีใด เพราะจะยิ่งไปซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจให้แย่ โดยสิ่งที่ทำให้คือ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ แต่คงเพิ่มได้ไม่มากเพราะเศรษฐกิจปรับลดลงมากจากเดิมมาก
โดยฐานจัดเก็บปีนี้ที่คาดว่าจะเก็บได้ 2.275 ล้านล้านบาท อยู่บนฐานเศรษฐกิจโต 4-5% แต่ล่าสุด กระทรวงการคลัง มองว่าจะโตไม่ถึง 2.6% คาดว่าทำให้การจัดเก็บหลุดเป้าประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้พยายามเร่งรัดการจัดเก็บเต็มที่ เช่น เพิ่มฐานเร่งรัดกรณีพิพาทภาษี เข้าไปดูภาษีที่หลุดเป้ามากเกิดจากอะไร เพื่อไม่ให้ภาพรวมจัดเก็บทั้งปีหลุดเป้าหมายมากนัก
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-เม.ย.57) จัดเก็บได้ 1.29 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 4.39 หมื่นล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้าหมาย 3.3% และต่ำกว่าช่วงเดือนกันปีก่อน 3.78 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 2.8% ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่รวมการคืนภาษี และเงินจัดสรรจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
ทั้งนี้ หากดูเฉพาะ 3 กรมภาษี พบว่า ในเดือน เม.ย. ได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาการเมืองที่เริ่มรุนแรงขึ้นส่งผลให้การจัดเก็บภาษีลดลงกว่าเป้าหมายกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ถือว่าต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยภาพรวมในการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมภาษีในช่วง 7 เดือนต่ำกว่าเป้าหมายถึง 8.14 หมื่นล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้า 7.3% โดยกรมสรรพากร จัดเก็บต่ำกว่าเป้า 3.6 หมื่นล้านบาท หรือ 4.2% กรมสรรพสามิต จัดเก็บต่ำกว่าเป้า 3 หมื่นล้านบาท หรือ 11.5% ส่วนกรมศุลกากร จัดเก็บต่ำกว่าเป้า 1.45 หมื่นล้านบาท หรือ 18.9%
“ยังดีหน่อยที่สามารถจัดเก็บรายได้นอกเหนือจากภาษีได้สูงกว่าเป้าหมาย 3.73 หมื่นล้านบาท โดยเป็นรัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้าหมาย 2.35 หมื่นล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 1.38 หมื่นล้านบาท ทำให้ผลกระทบต่อภาพรวมการจัดเก็บลดลงได้บ้าง” แหล่งข่าว กล่าว
ด้านนายสมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าจะมีปัญหาการเมืองไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มบริหารงาน แต่การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวมวงเงิน 2.52 ล้านล้านบาท ในรอบ 7 เดือนแรก (ต.ค.2556-เม.ย.2557) เบิกจ่ายได้จำนวน 1.42 ล้านล้านบาท หรือ 56.36% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ แต่ต่ำกว่าการเบิกจ่ายในช่วงปีที่ผ่านมาเล็กน้อย
สำหรับเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนรวม อยู่ที่ 4.28 แสนล้านบาท ในรอบ 7 เดือน เบิกจ่ายได้แล้ว 1.73 แสนล้านบาท หรือ 40.58% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ แต่น้อยกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนเช่นกัน ขณะที่งบลงทุนเบิกจ่ายเหลื่อมปีวงเงิน 3.01 แสนล้านบาท เบิกจ่ายได้แล้ว 1.56 แสนล้านบาท หรือ 52.03%
ทั้งนี้ การเบิกจ่ายงบลงทุนเดือน เม.ย.2557 กระเตื้องขึ้นเมื่อเทียบกับการเบิกจ่าย ณ สิ้นเดือน มี.ค.2557 โดยงบลงทุนเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น 2.5 หมื่นล้านบาท และงบลงทุนเหลื่อมปีมีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น 2.2 หมื่นล้านบาท ทำให้มีเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในเดือน เม.ย. 4.7 หมื่นล้านบาท
“หลังจากที่กรมบัญชีกลางทำหนังสือชี้แจงไปถึงหน่วยงานต่างๆ ว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของปี 2557 และงบลงทุนเหลื่อมปี รัฐบาลรักษาการสามารถดำเนินการอนุมัติได้ เพราะเป็นงบที่ได้รับการพิจารณา และอนุมัติก่อนมีการยุบสภา ซึ่งทางหน่วยงานต่างๆ ก็เริ่มมีความมั่นใจที่จะเบิกจ่ายมากขึ้น ทำให้มีผลดี” นายมนัส กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมบัญชีกลางจะต้องติดตามการเบิกจ่ายอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะปัญหาการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างรวดเร็ว ว่าจะมีผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณของปี 2557 เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
สำหรับการจัดทำงบประมาณปี 2558 เป็นหน้าที่ของสำนักงบประมาณ ที่คงต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจ ในส่วนของกรมบัญชีกลาง หากงบประมาณปี 2558 ดำเนินการใช้ไม่ทันในวันที่ 1 ต.ค.2557 ก็ได้เตรียมการใช้กรอบงบประมาณปี 2557 เบิกจ่ายงบประจำของปี 2558 ไปก่อนได้