นักลงทุนกังวลการเมืองรุนแรง นักวิเคราะห์ยอมรับเหตุการณ์คาดเดาได้ยาก

หุ้นไทยส่งท้ายสัปดาห์ปิดร่วง 1.65 จุด นักลงทุนเทขายกังวลการเมืองรุนแรง จับตา 2 กลุ่มยกระดับชุมนุมใหญ่ ขณะที่เหตุการณ์คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่ และในระดับใด พร้อมคาดสัปดาห์ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,400 จุด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 พ.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,377.37 จุด ลดลง 1.65 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 26,099.67 ล้านบาท โดยวันนี้ ต่างชาติขายสุทธิ 1.8 พันล้าน รายย่อยซื้อสุทธิ 1.4 พันล้าน สถาบันซื้อสุทธิ 565 ล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ขายสุทธิ 124 ล้านบาท

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวก จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นระยะ หลังจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีผลต่อสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก นักลงทุนจึงมีความกังวล และระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดว่าตลาดหุ้นไทยคงยังจะได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง โดยวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) จะมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขณะที่กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ก็จะมีการชุมนุมต่อเนื่องจากวันนี้ จึงยังคงคาดเดาเหตุการณ์ได้ยากว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่ และในระดับใด พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,400 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,244.05 ล้านบาท ปิดที่ 7.90 บาท ลดลง 0.10 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,156.07 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ICHI มูลค่าการซื้อขาย 1,114.04 ล้านบาท ปิดที่ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,024.70 ล้านบาท ปิดที่ 17.80 บาท ลดลง 0.10 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,014.35 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท