xs
xsm
sm
md
lg

ต่างขั้ว.. “ภาวิทย์ & พงษ์รพี” การลงทุน&ความสุข ...ไปด้วยกันได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คงต้องยอมรับว่า คนทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ แต่น้อยคนที่จะสามารถใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้  และยิ่งน้อยเข้าไปอีกสำหรับผู้ที่พอใจกับสถานะทุกช่วงชีวิตของคนเอง  ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจ “ขาลง” ประกอบกับสภาวะทางการเมืองที่ไร้ทิศทาง คนส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะ “เครียดลึก” ในจิตใจ และพร้อมที่จะระเบิดออกมาในสถานการณ์เล็กน้อย  ทำให้ทุกวันนี้สภาพการใช้ชีวิตประจำวันของคนเมืองอยู่ในภาวะ “ต่างคนต่างอยู่ เห็นความสำคัญเฉพาะตัวมากกว่าส่วนรวม” 

วันนี้ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ได้พูดคุยกับ “ภาวิทย์ กลิ่นประทุม” นักลงทุนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนเทคนิคการลงทุนให้กับคนทุกคนที่เข้ามาสอบถาม กับ “พงษ์รพี บูรณสมภพ” นักจิตวิทยาที่แก้ทุกปัญหาชีวิตได้ด้วยวิทีง่ายๆ ในธีม“money solution VS  people solution” โดยมี 5 ปัจจัยหลักที่คนส่วนใหญ่ต้องไขว่คว้า งาน  เงิน  เวลา  บ้าน  และความรัก  มาเป็นให้ร่วมกัน “นิยาม” ความหมาย

“แพท” ภาวิทย์ กลิ่นประทุม นิยาม life style ตัวเองชัดเจนว่าเขาคือ money solution คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน   ฐานะทางการเงิน  โดยก่อนหน้าที่จะโคจรมาพบกับ “ต้อง” พงษ์รพี บูรณสมภพ แพทเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่แสวงหาผลกำไรจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างจริงจังนอกจากประสบความสำเร็จ ก็มีบ้างที่ “พลาดท่า”

 แน่นอนว่า แพท ก็ยิ่งทุ่มทุนเข้าไปเพื่อหวัง “ได้คืน”  แต่หลังจาก money solution โคจรมาพบกับ people solution อย่าง “ต้อง” มุมมองการลงทุนของแพท ก็เปลี่ยนไปเริ่มจากการรู้จัก “อดทนรอคอย” ถอยตัวเองออกมาจากการเป็น “ผู้เล่น” มาเป็น “ผู้มอง” แต่การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ชีวิตแพทเปลี่ยนไป คือ การเปลี่ยนความคิดที่จะทำงานเพื่อหาเงิน แพท เริ่มมองหา “ตัวตนที่แท้จริง” ของตัวเอง จนพบว่า การถ่ายทอดสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ระหว่างการลงทุนในตลาดหุ้นให้กับผู้อื่น คือ สิ่งที่ทำให้เขามีความสุข

 แพท ลงมือทำทันทีด้วยการเริ่มให้คำแนะนำผ่านเฟซบุ๊ก จนเริ่มมีผู้ติดตามและเข้ามาสอบถาม  สิ่งแรกที่แพทได้จากการให้คำแนะนำคือ “ยิ่งให้ก็ยิ่งได้” แพทได้ความรู้อย่างมากมายระหว่างการแลกเปลี่ยนเชิงแนะนำการลงทุนในหุ้นทั้งที่เขาเคยศึกษา และไม่เคยสนใจเข้าไปศึกษา และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือ เทคนิคการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ของแพทก็เปลี่ยนไป เขาเลือกที่จะลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่แม้ใช้เวลาถือนาน แต่ได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

“ผมเริ่มคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมต้องหยุดเต้นตามอารมณ์ และหันกลับมามองว่าผมต้องการอะไรในชีวิต แล้วผมก็คิดได้ว่า ผมต้องการให้คนเข้าใจตลาดหุ้น ผมว่าทุกวันนี้หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ถูกที่สุดซึ่งทุกคนมีโอกาสเข้ามาลงทุน ถามหน่อยถ้าคุณอยากซื้อที่ดินใจกลางสีลม คุณคงไม่มีเงินซื้อ  แต่ถ้าคุณเข้ามาลงทุนในหุ้น ผมเลือกเอาให้หุ้นที่แพงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์เลยก็คงไม่เกินหุ้นละ 380 บาท แต่คุณมีเงินซื้อได้เพียง 100 หุ้น ก็เท่ากับคุณลงทุนเพียง 38,000 บาท คุณก็เป็นเจ้าของ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวงได้แล้ว  ผมจึงเริ่มเขียนคำแนะนำลง Facebook จนมีคนเริ่มติดตามผม และฝากคำถามแล้วผมก็ได้รู้ว่า when you teach you learn การที่ผมทำหน้าที่ผู้ให้คำแนะนำทำให้ผมได้เห็นตลาดหุ้นอยู่ตลอดเวลา ได้เรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่งเพราะทุกวันนี้ตลาดฯ เปลี่ยนเร็วมาก

......ถ้าคุณเข้าใจวัฏจักรชองการลงทุน คุณจะรู้ว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทุก 10 ปีจะครบรอบของมัน  ถ้าคุณลงทุน 10 ปีผลตอบแทนของคุณอยู่ที่ 10 เท่า แต่ถ้าลงทุน 20 ปี คุณจะได้ผลตอบแทน 120 เท่า ที่สำคัญคือ คุณจะมีความอดทนอยู่จนถึงไหม  เหมือนผมให้คุณปลูกไม้ผล 1 ต้น มันต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนกว่าคุณจะได้ทานผลของมัน  ทำไมปลูกผลไม้คุณรอจนมันออกลูกได้ แต่การลงทุนในตลาดหุ้นไม่เคยมีใครรอรับผลอันเหมาะสมของมันกันสักคน”

จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ money solution อย่าง แพท คือ เขามองเห็นวิกฤตที่รายล้อมอยู่รอบด้านทั้งวิกฤตการเมืองที่ยืดเยื้อ  และวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มต้น แพท มองว่าหากทุกคนเริ่มต้นเป็นผู้ให้ และเพิ่มความจริงใจให้สังคมมากขึ้น น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญให้สังคมไทยทุกวันนี้เริ่มดีขึ้น  เขาจึงเป็น 1 ในกลุ่มคนที่เริ่ม ทำหน้าที่ “ผู้ให้” ในสังคม  ......

“ผมเรียนรู้ว่าชีวิตเป็นเหรียญ 2 ด้าน มีทั้งช่วงที่พุ่ง และช่วงที่ผ่อนแรงลง  สังเกตไหมว่าการใช้ชีวิตช่วงพุ่งคนทุกคนจะไม่มีเวลาหยุดคิด ทำงานไปตามเวลาปล่อยให้นาฬิกาเข้ามาเป็นเครื่องกำหนดชีวิตให้ดำเนินไปในแต่ละวัน  แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ชีวิตคุณต้องผ่อนแรง ผมอยากให้ทุกคนตั้งสติ หันกลับมามองดูตัวเองมีเวลาให้พิจารณาตัวเองหรือไม่  ผมมองว่าในทุกวิกฤตมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติในการลงทุน วิกฤตในการใช้ชีวิต เพราะเมื่อเกิดความผิดพลาดมันก็เป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้จากการทำผิดนั้น และพัฒนาต่อยอดในสิ่งที่เราเรียนรู้”

 ดังนั้น นิยามของ “งาน” สำหรับแพทในวันนี้เขาขอทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุนที่มีให้แก่ทุกคนที่ต้องการฟังความคิดเห็นจากเขา  “เงิน” จึงกลายเป็นปัจจัยรองลงมา ซึ่งการทำหน้าที่ผู้สอนก็ทำให้เขามีมุมมองในการลงทุนที่เปลี่ยนไป สร้างรายได้ที่ “เพียงพอ” ให้เขา “มีเวลา” ทำงานที่ “ใช่” ต่อไปได้อย่างไม่เดือดร้อน

 ส่วน “ความรัก” ณ ช่วงเวลานี้คงทุ่มให้กับงานก่อนที่จะเริ่มแสวงหาอย่างจริงจัง  จนถึงวันนี้ แพท ยังคงพอใจในการทำหน้าที่ “ผู้ให้คำแนะนำการลงทุน”  ในตลาดหลักทรัพย์ และจะพยายามรักษาจุดยืนนี้ให้ได้นานที่สุด

มาถึง “ต้อง” พงษ์รพี บูรณสมภพ people solution นักจิตวิทยาที่พร้อมให้คำแนะนำทางออกของทุกปัญหาชีวิต “ต้อง” ยอมรับว่ามุมมองการ “ทำเงิน” ของตนเองเปลี่ยนไปเมื่อต้องโคจรมาพบกับ แพท แต่เขาก็ยังคงเดินในแนวทางที่ตนถนัด คือ ประเมินความสามารถตัวเองและเลือกทำงานตามความถนัดของตนเอง เพราะเป้าหมายของ people solution อย่างต้องคือการทำงานที่ตนรักอย่างมีความสุข

 ต้องเชื่อเสมอว่า “คนทุกคนสามารถนิยามความสุขของตนเองได้ทุกช่วงเวลา” เมื่อคุณรู้ว่า ณ ช่วงเวลานั้น “ความสุข” ของคุณคืออะไร คุณก็หาเงินให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องคร่ำเคร่งกับการหาเงิน 

“ผมยอมรับว่าการได้แลกเปลี่ยนกับแพททำให้ผมเริ่มหันมาให้ความสนใจลงทุนใน “asset” แต่ผมไม่มีความรู้ในตลาดทุนจึงหันไปลงทุนในที่ดิน เพราะผมไม่มีความชำนาญในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็ยอมรับว่าหุ้นเป็น “asset” ที่ถูกที่สุดซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาจับต้องได้ และวิธีการลงทุนให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินว่าจะเรียนรู้  เพียงแต่ต้องไม่มีความโลภในการลงทุน  ใช้สติ คือ พูดง่ายๆ ก็คงต้องลงทุนในหุ้นพื้นฐานไม่ใช่หุ้นเก็งกำไรถึงจะไม่ขาดทุน”

ดันนั้น นิยามของ “งาน” สำหรับต้องในวันนี้เขาขอทำหน้าที่ให้คำปรึกษาปัญหาในการดำเนินชีวิตให้แก่ทุกคนที่ต้องการทางออก  “เงิน” จึงกลายเป็นปัจจัยรองลงมา ซึ่งการทำหน้าที่ทำลายกำแพงให้ผู้มีปัญหาเดินออกมาจากวังวนที่บีบคั้นทำให้ ต้อง เข้าใจทุกด้านของชีวิตและเพิ่มความรัดกุมยิ่งขึ้นในทุกคำตอบ อีกทั้งยังสร้างรายได้ที่ “เพียงพอ” ให้เขา “มีเวลา” ทำงานที่ “ใช่” ได้อย่างไม่เดือดร้อน

ท้ายนี้ ต้อง ฝากแง่คิดในการใช้ชีวิตให้มีความสุขอย่างง่ายๆ มาถึงผู้อ่านทุกท่าน ว่า “คนเราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ เราต้องลด “ความคาดหวังลง” เพราะหากเราคาดหวังสิ่งใด เรื่องใดมากเกินไป แล้วไม่ได้ดั่งที่หวังเราก็จะเกิดความทุกข์ แต่ถ้าเราลดความคาดหวังลงมา เราก็จะไม่เครียดกับมัน  เมื่อไม่เครียดก็ไม่ทุกข์ ไม่ทะเลาะ ความสุขก็ตามมา”

หวังว่าการ “ลดความคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนลง” คงจะช่วยให้ทุกท่านสามาถลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างมีความสุข





กำลังโหลดความคิดเห็น