ผู้ถือหุ้น บล.คันทรี่ กรุ๊ป ไฟเขียวลดทุนจดทะเบียน และปรับโครงสร้างธุรกิจ อนุมัติเพิกถอน CGS ออกจากตลาดหลักทรัพย์ เดินหน้าส่งโฮลดิ้ง คอมปานี เข้าจดทะเบียนแทน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และความคล่องตัวทางธุรกิจ
น.ส.สุดธิดา จิระพัฒน์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัทฯ ด้วยคะแนนเสียงด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมด โดยมีมติอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วเช่นกัน
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 3,189,785,935 บาท เป็น 2,589,743,484 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ จำนวน 600,042,451 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ขณะเดียวกัน อนุมัติการจัดสรรกำไร และการจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2556 โดยมีมติด้วยเสียงข้างมากอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย จำนวน 55,574,679 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท คิดเป็นเงิน จำนวน 284.87 ล้านบาท หรือ 90.60% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2557
ทั้งนี้ บล.คันทรี่ กรุ๊ป มีแผนจะเพิกถอนหุ้น CGS ออกจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทน เพื่อรักษาระดับรายได้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อการก้าวสู่ความเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำของประเทศ ซึ่งบริษัทวางแผนปรับโครงสร้างรายได้ธุรกิจ เน้นรายได้จากวาณิชธนกิจ เช่น การเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน (FA) การนำบริษัทต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ การเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการ (M&A) และพอร์ตการลงทุนของบริษัท
สำหรับแผนการจัดตั้งโฮลดิ้ง คอมปานี เพราะบริษัทเชื่อว่าจะช่วยขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และสร้างความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจอื่นๆ ที่มิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแล และกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจไม่ให้กระจุกตัวอยู่กับบริษัทแม่เพียงบริษัทเดียว
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดโอกาสในการหาพันธมิตร หรือผู้ร่วมทุนใหม่ๆ ที่มีความชำนาญเฉพาะธุรกิจที่ต้องการเข้ามาร่วมมือ และร่วมทุนเป็นรายธุรกิจก็สามารถทำได้ เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงเพิ่มช่องทางในการหารายได้ และกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจในอนาคต ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจาก บล.คันทรี กรุ๊ป ที่มีแผนเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ และนำโฮลดิ้ง คอมปานี ของกลุ่มเข้าจดทะเบียนแทนแล้ว ยังมีบริษัทหลักทรัพย์อีกหลายแห่งที่เตรียมเดินหน้าจัดตั้งโฮลดิ้ง คอมปานี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทน เพื่อเพิ่มความยืดหยุด และความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ
