ธปท. ส่งสัญญาณ “จีดีพี” ปีนี้มีโอกาสโตต่ำกว่า 2.7% เผยสาเหตุจากเงินงบประมาณล่าช้า การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจ 2 เดือนแรกหดตัวต่ำกว่าที่คาด แม้ใบพัดหลักในการส่งออกจะเป็นตัวผลักดันที่สำคัญ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้มีโอกาสจะโตต่ำกว่า 2.7% โดยเชื่อว่ามาจากสาเหตุเรื่องเงินงบประมาณที่มีความล่าช้าออกไปประมาณ 5 เดือน หรือ 2 ไตรมาส เนื่องจากยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาจัดทำงบประมาณ จึงส่งผลให้งบประมาณที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจล่าช้าออกไปอีก และเศรษฐกิจใน 2 เดือนแรกหดตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเดิมทีในปีก่อนจะมีเม็ดเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 50.2% แต่ในปัจจุบันมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพียง 49.2%
ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังมีแรงกระตุ้นจากภาครัฐ และเงินลงทุนจากภาคเอกชนชะลออกไป เนื่องจากขาดความเชื่อมั่น และรอดูสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งจะทำให้การประชุมคณะกรรมการ กนง. ในครั้งหน้าอาจจะมีการปรับลดจีดีพีลง ซึ่งจากเดิมคาดว่าจะโต 2.7% แม้ในปีนี้จะมีปัจจัยบวก คือ เรื่องของการส่งออกที่จะขยายตัว 4.5% เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่สามารถชดเชยการลงทุนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่อาจจะมีการขาดหายไป
ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณอาจมีการล่าช้าออกไป 5 เดือน หรือนานถึง 2 ไตรมาส เนื่องจากไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาจึงส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าออกไปด้วย รวมถึงการลงทุนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่อาจมีการชะลอการลงทุนออกไป แม้ในปีนี้การส่งออกจะเป็นตัวช่วยหลักแต่ก็ไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ