“นิด้า” คาดที่ประชุม กนง. วันที่ 23 เม.ย. คงดอกเบี้ยที่ 2% เพื่อช่วยพยุงเสถียรภาพเศรษฐกิจ และรักษาเครื่องมือทางการเงินในการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในครั้งต่อไป หลังจากเครื่องมือทางการเงินเป็นเครื่องมือเดียวในการประคองภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 23 เมษายนนี้ คาดว่าที่ประชุมจะตัดสินใจคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.0 เพื่อรักษาเครื่องมือทางการเงินในการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในครั้งต่อไป หลังจากเครื่องมือทางการเงินเป็นเครื่องมือเดียวในการประคองภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจไทยได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ประเทศคู่ค้ามีการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกของไทยที่มีสัดส่วนต่อ GDP มากถึงร้อยละ 72 และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี ประกอบกับอัตราค่าเงินบาทของไทยที่อ่อนค่าลงมาโดยเฉลี่ยมาอยู่ที่ 32.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และค่อนข้างมีเสถียรภาพ จึงเป็นอีกปัจจัยหนุนที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยในปีนี้ให้เติบโตได้ถึง 9%
นอกจากนี้ ยังมองว่าการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ยังเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนภาคเอกชนที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้ดีขึ้น จึงถือเป็นมุมมองที่ดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้
“เชื่อว่าแบงก์ชาติจะตัดสินใจในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 2.0 เนื่องจากเครื่องมือในการดำเนินนโยบายทางการคลังยังมีจำกัด เพราะรัฐบาลปัจจุบันเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ และแบงก์ชาติเองก็ต้องคำนึงถึงความต่างของระดับอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศ และภายนอกประเทศที่มีผลต่อการไหลออกของเงินทุน เมื่อปัจจัยข้างต้นมารวมกับข้อมูลด้านตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีในปีนี้นั้น ทำให้แบงก์ชาติจะเลือกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยให้มีเสถียรภาพมากที่สุด”