วายแอลจี คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 17 เมษายน 2557 ว่า การที่นักลงทุนวิตกกังวลกรณีกองทัพยูเครนเผชิญความเสี่ยงที่จะมีการปะทะกันกับรัสเซีย เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำ คาดว่าราคาจะค่อยๆ ขยับขึ้นในลักษณะ Sideway เบื้องต้น วายแอลจียังคงแนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,310 หรือ 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ จะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงอีกครั้ง แต่หากหลุดให้ชะลอการซื้อมาบริเวณ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยนักลงทุนควรติดตามปัจจัยที่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวราคาทอง คือ กรณีที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน หรือ NBS เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 7.4% ในไตรมาสแรกของปี ลดลงจากระดับ 7.7% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว แต่สูงกว่าที่ผลสำรวจคาดไว้ที่ 7.3% และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ ซึ่งใกล้เคียงเป้าหมายที่ 7.5% ที่ผู้กำหนดนโยบายชั้นนำของจีนได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 18 เดือนในไตรมาสแรก แต่ไม่รุนแรงพอที่จะทำให้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ขณะที่หลังจากการประกาศตัวเลขจีดีพี Q1 ของจีนไม่ได้กระทบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมากนัก เพราะราคาทองคำปรับตัวลดลงรับคาดการณ์ไปก่อนหน้าแล้ว
ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงถูกดดันดันจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่า แนวโน้มภาวะเงินเฟ้อต่ำสิ้นสุดลงแล้ว และการเพิ่มขึ้นครั้งนี้น่าจะคลายความกังวลของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด บางคนที่ว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป อย่างไรก็ตาม ความกังวลวิกฤตยูเครนยังที่เป็นที่จับตาเพิ่มมากขึ้น หลังจากรักษาการประธานาธิบดีแห่งยูเครน เริ่มปราบปรามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสุนนรัสเซียด้วยการใช้อาวุธหนัก จนมีผู้เสียชีวิต ส่งผลให้มีความวิตกกันว่าจะทำให้กองทัพยูเครนเผชิญความเสี่ยงที่จะมีการปะทะกันกับรัสเซียได้เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำ
พร้อมกันนี้ วายแอลจี ได้สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 16 เมษายน 2557 ว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,293.90-1,304.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ14 อยู่ที่ 19,980 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 230 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,210 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ14 อยู่ที่ 654 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 654 บาท (หมายเหตุ : ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 16/04/14)
โดยนักลงทุนควรติดตามปัจจัยที่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวราคาทอง คือ กรณีที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน หรือ NBS เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 7.4% ในไตรมาสแรกของปี ลดลงจากระดับ 7.7% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว แต่สูงกว่าที่ผลสำรวจคาดไว้ที่ 7.3% และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ ซึ่งใกล้เคียงเป้าหมายที่ 7.5% ที่ผู้กำหนดนโยบายชั้นนำของจีนได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 18 เดือนในไตรมาสแรก แต่ไม่รุนแรงพอที่จะทำให้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ขณะที่หลังจากการประกาศตัวเลขจีดีพี Q1 ของจีนไม่ได้กระทบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมากนัก เพราะราคาทองคำปรับตัวลดลงรับคาดการณ์ไปก่อนหน้าแล้ว
ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงถูกดดันดันจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่า แนวโน้มภาวะเงินเฟ้อต่ำสิ้นสุดลงแล้ว และการเพิ่มขึ้นครั้งนี้น่าจะคลายความกังวลของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด บางคนที่ว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป อย่างไรก็ตาม ความกังวลวิกฤตยูเครนยังที่เป็นที่จับตาเพิ่มมากขึ้น หลังจากรักษาการประธานาธิบดีแห่งยูเครน เริ่มปราบปรามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสุนนรัสเซียด้วยการใช้อาวุธหนัก จนมีผู้เสียชีวิต ส่งผลให้มีความวิตกกันว่าจะทำให้กองทัพยูเครนเผชิญความเสี่ยงที่จะมีการปะทะกันกับรัสเซียได้เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำ
พร้อมกันนี้ วายแอลจี ได้สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 16 เมษายน 2557 ว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,293.90-1,304.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ14 อยู่ที่ 19,980 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 230 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,210 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ14 อยู่ที่ 654 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 654 บาท (หมายเหตุ : ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 16/04/14)