สบน.เตรียมสำรวจความต้องการตลาดเพื่อกู้เงินจ่ายโครงการรับจำนำข้าว เผยมี 3 รูปแบบ ได่แก่ การกู้เงินในระยะยาว ตั๋วสัญญาใช้เงิน และพันธบัตรรัฐบาล เพื่อดูว่ารูปแบบไหนที่ตลาดต้องการ และมีต้นทุนต่ำที่สุด เนื่องจากขณะนี้สภาพคล่องตลาดอยู่ในระดับสูง
นางจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์จะสำรวจตลาดจากนักลงทุนในเรื่องการตอบรับเงินกู้ เพื่อนำมาใช้ในการจำนำข้าว โดยจะสำรวจทั้งความต้องการของตลาดใน 3 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.การกู้เงินในระยะยาว 2.ตั๋วสัญญาใช้เงิน และ 3.พันธบัตรรัฐบาล เพื่อดูว่ารูปแบบไหนที่ตลาดต้องการ และมีต้นทุนต่ำที่สุด เนื่องจากขณะนี้สภาพคล่องตลาดอยู่ในระดับสูง เพราะ สบน.ได้ออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยมีคนมาประมูลจำนวนมาก 2-3 เท่าของวงเงินประมูล
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมาการเปิดโครงการเงินกู้เพื่อใช้จำนำข้าวถูกบิดเบือนจากปัญหาการเมือง จึงทำให้ผู้มาประมูลวิตกการเงิน ทำให้กังวลจนเกิดเหตุ โดยระหว่างนี้กำลังทำความเข้าใจร่วมกับผู้ต้องการประมูล เพราะทำอยู่ในขั้นตอนตามกฎหมาย โดยจะเดินหน้าเปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำควบคู่กับการมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร
ส่วนแนวทางการออกพันธบัตรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดบริษัทจัดอันดับความเชื่อถือ เพื่อจัดเรตติ้งของธนาคาร โดยกระบวนการออกต้องใช้เวลานาน ปริมาณที่จะออกพันธบัตรคงไม่ถึง 100,000 ล้านบาท แต่ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลัง กู้เงินได้อีกทางหนึ่ง
โดยระหว่างนี้ สบน.ยังเดินหน้าออกพันธบัตรในการกู้เงินขาดดุลงบประมาณในปี 2557 วงเงิน 250,000 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณได้ออกพันธบัตร 100,000 ล้านบาท และไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ มีแผนออกพันธบัตรกู้เงินชดเชยขาดดุล วงเงิน 60,000 ล้านบาท คาดว่าจะกระจุกตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เพราะเดือนเมษายนเป็นช่วงวันหยุด
ส่วนกรณีสถาบันจัดอันดับเครดิตของญี่ปุ่น (JCR) ยืนยันความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาว ยังไม่น่าเป็นห่วง และยังไม่กระทบต่อต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ แต่หากในอนาคตถูกปรับลดเครดิตจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุน หากปัญหาการเมืองยืดเยื้ออาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจ และถูกปรับลดอันดับเครดิตในอนาคต