หุ้นไทยเทรดแผ่วหลังตลาดสหรัฐฯ ร่วง 2 วัน กดดันการซื้อขาย ฟากโบรกฯ แนะเน้นจับตาปัจจัยต่างประเทศมีอิทธิพลเหนือการเมืองไทย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันที่ 8 เมษายน 2557 ปิดที่ 1,379.34 จุด ลดลง 12.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,330.84 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง -0.91% โดยระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,399.07 จุด และต่ำสุดที่ 1,378.97 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,361.18 ล้านบาท
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุการที่ดัชนี วันที่ 8 เม.ย.57 ปรับตัวลงสวนทางกับการซื้อขายภาคเช้าที่เปิดตลาดมาในแดนบวก เพราะปัจจัยลบในต่างประเทศ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งตัวลงต่อเนื่อง 2 วัน
พร้อมคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 เม.ย.57 ว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,385 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด โดยประเด็นสำคัญยังคงเป็นเรื่องการแกว่งตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หากฟื้นตัวจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์ด้วย ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นเรี่องที่จะต้องมาติดตามกันอีกครั้งหลังวันหยุดสงกรานต์ ทั้งเรื่องการพิจารณาคดีโครงการจำนำข้าว ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. การนัดชุมนุมครั้งใหญ่ของทั้งกลุ่มสนับสนุน และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
ด้านนักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ ดัชนียังคงแกว่งผันผวน โดยโมเมนตัมตลาดช่วงสั้นยังคงเป็นบวก ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,380 จุดได้ คาดตลาดมีลุ้นฟื้นตัวจากเก็งตัวเลขส่งออกจีน ในวันที่ 10 เม.ย.57 จะออกมาดี หรือหากติดลบก็จะอยู่ในระดับที่น้อยกว่าตลาดซีกโลกตะวันตก เนื่องจากกระแสคาดการณ์เงินทุนไหลกลับ EMs จากโอกาสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป และรัฐบาลจีนในอนาคตอันใกล้
พร้อมแนะนำหากดัชนีไม่หลุด 1,380 จุดลงมา โมเมนตัมการเก็งกำไรเพื่อลุ้นดัชนีทะลุ 1,400 จุด (แนวต้านเทคนิคอยู่ที่ 1,407-1,416 จุด) ยังสามารถทำได้อยู่ โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำให้เลือก “เก็งกำไรหุ้น Laggard ที่มีโมเมนตัมบวก” อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ชะลอการเก็งกำไร ถ้าตลาดปรับถอยแรงและหลุด 1,370 จุดลงมา