“กิตติรัตน์” ประเมินสถานะประเทศเข้าใกล้ภาวะอันตรายทางเศรษฐกิจ และอาจเกิดวิกฤตทางการเมือง ยอมรับไทยเสี่ยงถูกปรับลดเครดิตเรตติ้ง เพราะมีสัญญาณออกมาจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชื่อดังของโลก
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกฯ และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ประเทศกำลังเข้าใกล้ภาวะอันตรายทางเศรษฐกิจมากขึ้น ล่าสุด บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody's Investors Service ได้ออกแถลงข่าวเตือนถึงผลกระทบหากสถานการณ์ทางการเมืองไทยยืดเยื้อไปถึงครึ่งหลังของปี 2557 โดยเฉพาะภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้แถลงคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 ให้การเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองมีโอกาสที่จะยืดเยื้อไปถึงครึ่งหลังของปี 2557
โดยขณะนี้แม้ว่าทาง Moody's จะยังไม่ปรับลดเรตติ้งของพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งยังคงอยู่ที่ Baa1 Stable Outlook แต่ได้ให้สัญญาณแล้วว่า การยืดเยื้อของสถานการณ์ทางการเมืองไทยเช่นนี้เป็น “Credit Negative” ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจทำให้มีการปรับลดเรตติ้งได้หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น
ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับที่หลายสำนักวิเคราะห์ได้แสดงความเป็นห่วงว่าความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยอาจส่งผลต่อการใช้จ่าย และการลงทุนภาครัฐ และกระทบความเชื่อมั่นซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน
โดยล่าสุด ในวันนี้ (27 มี.ค.) กระทรวงการคลังเองได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 จากเดิมร้อยละ 4.0 เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่คาดว่าจะชะลอลงในช่วงครึ่งแรกของปี ตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศอันยืดเยื้อมาจากช่วงปลายปี 2556 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นักลงทุน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นอกจากนี้ การยืดเยื้อของสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐอันเนื่องมาจากความล่าช้าของกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 อีกด้วย โดยการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะโตได้ที่ร้อยละ 2.6 และเดินหน้าต่อไปได้นั้น อยู่บนสมมติฐานที่ว่าปัญหาทางการเมืองต้องคลี่คลายโดยเร็ว ดังนั้น ขอให้เรามีความหวังร่วมกันว่าเราจะสามารถมีการเลือกตั้งโดยเร็ว และมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
