ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงเช้าที่ 1,359.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,145.56 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง +0.39% โดยปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,361.41 จุด และต่ำสุดที่ 1,356.42 จุด
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย สรุปทิศทางตลาดหุ้นช่วงเช้าว่า สามารถรีบาวนด์ได้จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี แต่อยากให้ใช้เป็นจังหวะในการขายลดพอร์ต เหตุจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่อาจกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง ขณะที่ ณ ระดับดัชนีที่ 1,380 P/E ตลาดหุ้นไทยจะขึ้นมาที่ 13 เท่า ซึ่ง SET ยังผ่านจุดนี้ลำบาก ขณะที่นักวิเคราะห์ยังคงปรับประมาณการกำไรลดลงอยู่ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเล่น Trading Gap เน้นหุ้นที่กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB) จากราคาหุ้นที่ถูก และหุ้นมีประเด็นบวก มูลค่าถูก ปันผลสูง เช่น กลุ่มส่งออก (CPF, TUF, CFRESH, GFPT, HANA, DELTA, SAT) เป็นต้น โดยให้แนวต้าน 1,356-1,364
ด้านนายธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บล.กสิกรไทย ระบุทิศทางตลาดในไตรมาส 2 จะเคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบจำกัด เนื่องจากยังได้รับปัจจัยกดดันจากการลดขนาด QE ของสหรัฐฯ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่ยังมีอุปสรรครออยู่ข้างหน้า การคว่ำบาตรประเทศรัสเซียต่อประเด็นการแยกตัวของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมีย การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนจากการปฎิรูปประเทศ รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศที่ยังไร้ทางออก และกดดันให้นักวิเคราะห์ปรับตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นจะทำให้ทำให้นักลงทุนบริหารการลงทุนในหุ้นได้ยาก
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองในประเทศทั้งจากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งครั้งใหม่จาก กกต. และการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในวันเสาร์ (29 มี.ค.) น่าจะกดดันให้ดัชนียังมีสิทธิแกว่งตัวผันผวน และปรับย้อนลงได้อีก ดังนั้น กรอบการขึ้นของดัชนีช่วงนี้จึงคาดว่าน่าจะยังจำกัดอยู่พอควร แนวรับ 1,352-1,348, 1,342-1,338 จุด แนวต้าน 1,357-1,360, 1,362-1,364 จุด
โดย 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุดได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 903,223 ล้านบาท ปิดที่ 23.40 เพิ่มขึ้น 0.60 บาท เปลี่ยนแปลง +2.63%
JAS มูลค่าการซื้อขาย 569,917 ล้านบาท ปิดที่ 7.95 ลดลง 0.05 บาท เปลี่ยนแปลง -0.62%
CPF มูลค่าการซื้อขาย 441,881 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 ไม่เปลี่ยนแปลง
KTB มูลค่าการซื้อขาย 380,043 ล้านบาท ปิดที่ 18.20 ไม่เปลี่ยนแปลง
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 377,183 ล้านบาท ปิดที่ 7.00 เปลี่ยนแปลง +0.10 (+1.45%)