xs
xsm
sm
md
lg

เผยกลุ่ม TIP เริ่มมีเม็ดเงินไหลเข้า โบรกฯ ให้น้ำหนักปัจจัยการเมือง 80%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยปิดร่วง 10 จุด กังวลการเมือง ขณะที่กลุ่ม TIP เริ่มมีเม็ดเงินไหลเข้า ต่างชาติเข้าซื้อ 940 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ให้น้ำหนักปัจจัยการเมือง 80% และปัจจัยต่างประเทศ 20% โดยคาดว่า พรุ่งนี้ดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,348-1,365 จุด แนะนักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นที่มีปันผล เผยตลาดฯ คาดหวังมีการทำ window dressing ภายในสัปดาห์นี้

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 มี.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,349.90 จุด ลดลง 10.60 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.78% มูลค่าการซื้อขาย 27,747.37 ล้านบาท คาดตลาดเข้าสู่ช่วงปรับฐาน เนื่องจากมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่เกือบทุกกลุ่ม

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุน วันนี้ ต่างชาติ ซื้อสุทธิ 940.77 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 1,147.29 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 201.17 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 407.7 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ดัชนีเข้าสู่การปรับฐานเพราะปรับตัวขึ้นจาก 1,300 จุด มาเป็น 1,370 จุด ถือว่าขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว จึงมีการปรับฐาน แต่คงไม่ได้หนีไปจากจุดนี้มากนัก มองในระดับ 1,360 จุด เป็นแนวรับที่พอรับได้สำหรับสัปดาห์นี้

ส่วนปัจจัยลบที่กดดันตลาดฯ ยังคงเป็นเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่กลับมาร้อนแรงขึ้น ส่วนปัจจัยต่างประเทศก็ยังอยู่ในเชิงลบ โดยเฉพาะในขณะที่สถานการณ์ในยูเครนยังทำให้รัสเซียกับฝั่งยุโรปยังเป็นภาพของความขัดแย้ง

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์ลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ปัจจัยการเมืองยังกดดันตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากตลาดหุ้นในภูมิภาค เช่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เริ่มปรับเพิ่มขึ้น และมีเงินทุนไหลเข้า

“พรุ่งนี้ก็คงไม่ต่างจากวันนี้ เพราะยังให้น้ำหนักกับปัจจัยการเมือง 80% และปัจจัยต่างประเทศ 20% โดยคาดว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,348-1,365 จุด และนักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นที่มีปันผล และมีการทำ window dressing บ้างเล็กน้อย”

นายชัย กล่าวเสริมว่า แรงกดดันทางการเมืองที่ยังไร้ข้อสรุป และส่อเค้าความรุนแรงอีกครั้ง โดยฝ่ายของกลุ่ม กปปส. จะจัดให้มีการชุมนุมใหญ่วันที่ 29 มี.ค.นี้ และกลุ่ม นปช. จะชุมนุมใหญ่วันที่ 5 เม.ย. ทำให้เกิดภาพบรรยากาศที่ไม่สดใสต่อการลงทุนมากนัก

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนทางลบในระยะสั้น โดยปัจจัยสำคัญที่ให้น้ำหนักให้เกิดความผันผวนมีทั้งปัจจัยบวกกับลบผสมผสานกัน ปัจจัยบวกคือ ความคาดหวังการทำ Window dressing ภายในสัปดาห์นี้

ส่วนปัจจัยลบ คือ การเมืองในประเทศที่ส่อเค้ายืดเยื้อออกไปอีก หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ ทำให้เกิดความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง เพราะคำวินิจฉัยเอื้อต่อการล้มการเลือกตั้งในครั้งต่อๆ ไปได้อีก ในแง่ฝั่งที่เรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศก็สามารถล้มการเลือกตั้งได้อีก ตลาดฯ จึงยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบดังกล่าวต่อไปในระยะนี้

ส่วนการทำ Window dressing หากไม่เกิดขึ้นก็จะทำให้ไม่สามารถต้านทานแรงลบที่เกิดขึ้นในระยะสั้นได้ และตลาดฯ ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนในแดนลบ

“พรุ่งนี้คาดหวังน่าจะเริ่มมีแรง Window dressing ให้เห็นบ้าง เพราะสัปดาห์นี้ควรจะเกิดเป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะมั่นใจความเต็มที่ของแรง Window dressing จะเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้ หรืออาจเกิดขึ้นในปลายสัปดาห์ได้”

สำหรับหลักทรพัย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,740,744 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ลดลง -0.55 บาท เปลี่ยนแปลง -6.55%

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย2,695,206 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,418,276 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท ลดลง 1.00 บาท เปลี่ยนแปลง -0.58%

IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,255,848 ล้านบาท ปิดที่ 22.70 บาท ลดลง 0.20 บาท เปลี่ยนแปลง -0.87%

CPF มูลค่าการซื้อขาย 962,195 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 1.00 บาท เปลี่ยนแปลง -3.48%
กำลังโหลดความคิดเห็น