xs
xsm
sm
md
lg

CK ฉลองกำไรปี 56 กว่า 7.6 พันล้าน แจกปันผลเป็นเงินแถมหุ้น (ข่าวประชาสัมพันธ์)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2556 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,214.04% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท โดยมีรายได้ก่อสร้าง 32,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.46% เทียบกับปี 2555 ผลประกอบการที่เติบโตอย่างมากในปีนี้มีสาเหตุจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1) รายได้ และกำไรจากงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยงานในมือที่มีในปัจจุบันมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการด้านวิศวกรรม และการเงินที่มีประสิทธิภาพของบริษัท และการเลือกรับงานอย่างรอบคอบ 2) รายได้และกำไรจากการลงทุนในบริษัทในกลุ่มเช่น บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ, น้ำประปาไทย, ซีเค พาวเวอร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลประกอบการที่โดดเด่น สามารถสร้างเงินปันผลและกำไรจากการลงทุนให้แก่บริษัทอย่างมั่นคง 3) รายได้และกำไรจากการขายเงินลงทุนใน บมจ.น้ำประปาไทย และรถไฟฟ้ากรุงเทพ ซึ่งถือว่าเป็นผลตอบแทนการลงทุนที่ดีมากจากการลงทุนในบริษัททั้ง 2 แห่งตั้งแต่เริ่มต้น ผลประกอบการที่โดดเด่นนี้แสดงถึงความมั่นคงและเจริญเติบโตของบริษัท และกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัททั้งในด้านของงานก่อสร้างและงานลงทุนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้เห็นชอบผลการดำเนินงานงวดปี 2556 และมีมติให้บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ จำนวนไม่เกิน 41,314,634 หุ้น (คิดที่ราคาหุ้นละ 1 บาท) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 40 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 41,314,634 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 0.025 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ในกรณีผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นหลังการจัดสรรหุ้นปันผลแล้ว บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในส่วนของเศษหุ้นนี้เป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.025 บาท และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.202778 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 335,107,949.27 บาท รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.227778 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 376,422,583.27 บาท โดยเมื่อรวมการจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เป็นเงิน จำนวน 330,517,067.20 บาทแล้ว เงินปันผลสำหรับปี 2556 เท่ากับ 0.402778 ต่อหุ้น พร้อมหุ้นปันผลในอัตรา 40 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือเท่ากับ 0.427778 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) คือวันที่ 7 พ.ค.2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 28 พ.ค.2557

นายปลิว กล่าวเสริมว่า แผนการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะมีรายได้จากงานก่อสร้างมากกว่า 30,000 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นประมาณ 8-10% ทั้งนี้ ยังไม่รวมงานใหม่ที่กำลังรอลงนามสัญญา เช่น โครงการโรงไฟฟ้าบางปะอิน เฟส 2 มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โครงการเขื่อนน้ำบาก ใน สปป.ลาว มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท งานก่อสร้างเพิ่มเติมสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท และงานเพิ่มเติมอื่นๆ ในโครงการที่ดำเนินการอยู่ และในส่วนของการลงทุน คาดว่าทุกบริษัทในกลุ่มจะเติบโตสร้างกำไรกลับให้ บริษัทอย่างมั่นคงเพราะเป็นธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มีการเจริญเติบโต อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของความล่าช้าในการประมูลงานของรัฐซึ่งมีผลจากปัญหาทางการเมือง บริษัทได้เตรียมการรับมือความเสี่ยงเหล่านี้ไว้แล้ว จะเห็นได้จากการที่บริษัทมีงานในมือทั้งสิ้นกว่า 1.2 แสนล้านบาท ครอบคลุมการดำเนินงานในช่วง 4-5 ปีนี้ การชะลอตัวในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะเร่งดำเนินงานในมือได้อย่างเต็มที่ สามารถจัดสรรบุคลากร และทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงไว้เพื่อรอรับงานใหม่ที่เข้ามาอีก ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่างานของภาครัฐไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนจะต้องเร่งรัดดำเนิน การประมูลอย่างแน่นอน เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

• เอสเอสไอ ยูเค ผลิตเหล็กแท่งแบนทะลุ 5 ล้านตัน ส่งป้อนเอสเอสไอบางสะพาน 50 ล็อต
เหล็กแท่งแบนล็อตที่ 50 จากท่าเรือ Teesport ประเทศอังกฤษ สู่โรงงานเอสเอสไอ บางสะพาน
บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค จำกัด (เอสเอสไอ ยูเค) บริษัทย่อยของบริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ เปิดเผยว่า บริษัทได้ผลิตเหล็กแท่งแบนสะสมครบ 5 ล้านตัน นับตั้งแต่การเริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเมื่อต้นเดือนได้มีการขนส่งเหล็กแท่งแบนล็อตที่ 50 จากท่าเรือ Teesport ประเทศอังกฤษ สู่โรงงานเอสเอสไอ บางสะพาน ประเทศไทย โดยจำนวนเหล็กแท่งแบนที่ได้ขนส่งมายังประเทศไทยจนถึงวันนี้ มีมากกว่า 3.2 ล้านตัน และมูลค่าเหล็กแท่งแบนส่งออกของเอสเอสไอ ยูเคในปี 2555 อยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้

Mr.Cornelius Louwrens, Business Director and Chief Operating Officer เอสเอสไอ ยูเค เผยว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นครั้งสำคัญสำหรับโรงงานเอสเอสไอทีไซต์ของเรา และยังแสดงถึงคำมั่นสัญญาและความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานของพนักงานเอสเอสไอ ยูเคทุกคน นอกจากนี้ ผมขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านซึ่งให้การสนับสนุนความพยายามของเราเสมอมา เราจะไม่ย่อท้อในการทำงาน และร่วมกันพัฒนาให้โรงงานเอสเอสไอทีไซด์ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในตลาดโลก”

• เรียนภาษาอังกฤษกับพี่ๆ เบทาโกร และโนวัส ทั้งสนุก ทั้งอร่อย

“ภาษาอังกฤษ…ง่ายนิดเดียว” เสียงบอกกล่าวผ่านไมค์จากหนึ่งในพี่ๆ ทีมงานค่ายภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เพื่อให้กำลังใจน้องๆ ทันใดนั้นเจ้าน้องผู้ชายคนหนึ่งก็ถามขึ้นมาว่า “แต่มันยาก…เยอะเลยใช่ไหมครับ??” นี่คือบทสนทนาที่เกิดขึ้นในกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก หรือ English for Kids ซึ่ง มูลนิธิสายธาร ในความอุปถัมภ์ของ เครือเบทาโกร ผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารครบวงจร ร่วมกับ บริษัท โนวัส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ ประสบการณ์ด้านภาษาอังกฤษจากเจ้าของภาษา ให้แก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล

กิจกรรมในครั้งนี้ ยกทีมกันมาที่ โรงเรียนซอย 26 สาย 4 ซ้าย โรงเรียนเล็กๆ ในตำบลมะนาวหวาน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ซึ่งมี อาจารย์พีระยศ บุญเพ็ง ผู้อำนวยการโรงเรียน และอาจารย์จรัญ สง่าเมน ผู้อำนวยการโรงเรียนซอย 7 สาย 4 ซ้าย ซึ่งอยู่ใกล้กัน เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของกิจกรรมนนี้ อนุญาตให้น้องๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวนกว่า 50 คน มาเรียนรู้ภาษาอังฤษที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ผ่านกิจกรรมสนุกๆ โดยใช้อาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียนซึ่งปราศจากโต๊ะ-เก้าอี้เรียน กระดานดำ เพื่อให้น้องๆ ลืมบรรยากาศในห้องเรียน ออกมาสนุกกับกิจกรรมอย่างเต็มที่

ในช่วงเช้าเป็นการสอนให้เด็กๆ ได้รู้จัก และจดจำคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารต่างๆ ผ่านเกม “ฉันอยากกิน….” โดยพี่ๆ จะพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นประเภทอาหารที่ต้องการ ส่วนน้องๆ ที่ถูกแบ่งทีมไว้แล้ว จะแข่งกันวิ่งไปหยิบป้ายภาพอาหารให้ตรงกับโจทย์ ทีมใดถูกต้อง และรวดเร็วถือว่าชนะ ต่อด้วยการสอนบทสนทนาภาษาอังกฤษ ส่วนช่วงบ่ายเป็นช่วงทดสอบเพื่อทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาในช่วงเช้า และประดิษฐ์ที่คั่นหนังสือทำมือ โดยให้น้องๆ ใส่ประโยคที่อยากเขียน เช่น I love my mom เป็นต้น

วีณา น้ามังคละกุล ผู้จัดการอาวุโส มูลนิธิสายธาร เครือเบทาโกร กล่าวว่า “เด็กนักเรียนในต่างจังหวัดไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากชาวต่างประเทศโดยตรง เด็กๆ จะพูดภาษาอังกฤษเหมือนการท่องจำ บางคนไม่กล้าที่จะพูดเพราะกลัวผิด เครือเบทาโกรเองมีทรัพยากรบุคคลที่สามารถพูดและสอนภาษาอังกฤษได้ จึงร่วมมือกับ โนวัสฯ บริษัทคู่ค้า เพราะผู้บริหารโนวัส มีแนวคิดอยากทำกิจกรรมดีๆ ให้แก่เด็กๆ จึงเป็นจุดเริ่มของการจัดกิจกรรมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2555 และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่งในทุกๆ ครั้งจะมีพี่ๆ พนักงานเบทาโกร และพี่ๆ พนักงานโนวัสทั้งคนไทย รวมถึงผู้บริหารชาวต่างประเทศ และครอบครัวที่มาอยู่ในประเทศไทยซึ่งมีจิตอาสา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาช่วยทำกิจกรรม”

สำหรับอีกช่วงเวลาแห่งความสุขของเด็กๆ คือ ช่วงพักเบรกอาหารว่าง และช่วงรับประทานอาหารกลางวัน เพราะนอกจากพี่ๆ จะมาช่วยสอนภาษาอังกฤษแล้ว ยังนำทั้งไก่ชุบแป้งทอด นักเก็ตไก่ และไส้กรอกคุณภาพ และแสนอร่อยจาก “เบทาโกร” มาทอดให้น้องๆ ได้รับประทานกันทั้งโรงเรียน เรียกว่าทั้งเต็มอิ่มกับความรู้ ยังเต็มอิ่มกับความอร่อยกับอาหารคุณภาพอีกด้วย กิจกรรมในวันนี้ถึงจะพูดภาษาอังกฤษถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กๆ ที่คงจะได้คำตอบในใจแล้วว่า ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น