“เซเว่น” เดินหน้ารีไฟแนนซ์หนี้ที่ซื้อ “แม็คโคร” 1.8 แสนล้านบาท ล่าสุด ออกหุ้นกู้อีกล็อต 4 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยขอรอผลประชุม กนง.ก่อนตัดสินใจ ภาพรวมสัดส่วนหนี้ที่เป็นหุ้นกู้เพิ่มขึ้นแตะ 9 หมื่นล้าน ส่วนที่เหลืออีก 9 หมื่นล้าน เตรียมคุยเจ้าหนี้ปรับจากเงินกู้ระยะสั้นเป็นระยะยาว หวังลดต้นทุนอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าปัจจุบันที่อยู่ระดับ ผู้บริหารยันการเมืองไม่กระทบยอดขาย ตั้งเป้าปีนี้โต 15% พร้อมควักเม็ดเงินทุน 8 พันล้าน ขยายสาขา และปรับปรุงร้าน พร้อมลงทุนด้านโรงงาน
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเสนอขายหุ้นกู้มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี ให้แก่นักลงทุนสถาบัน และประชาชนทั่วไป ในวันที่ 24-26 มี.ค.นี้ โดยมีธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารธนชาต บล.ภัทร เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมี บล.โนมูระ พัฒนสิน เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย
สำหรับหุ้นกู้ที่จัดจำหน่ายในครั้งนี้เป็นการออกหุ้นกู้ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่ได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 90,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา CPALL ได้ออกและเสนอเสนขายหุ้นกู้ไปแล้ว จำนวน 50,000 ล้านบาทในเดือนตุลาคม ปีก่อน
“การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เรามีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปทดแทนเงินกู้ยืม จึงไม่ได้เป็นการก่อหนี้เพิ่ม ในครั้งที่แล้วหุ้นกู้ 5 หมื่นล้านบาท เราได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยคือ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี, อายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี, อายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 5.10% ต่อปี และ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.35% ต่อปี แต่ในรอบนี้บริษัทจะมีการประชุมกำหนดกำหนดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งต้องรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะมีการปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สภาวะการณ์ปัจจุบัน ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง การกำหนดดอกเบี้ยหุ้นกู้ก็คงจะอิงดอกเบี้ยในตลาด และดอกเบี้ยกลางเป็นหลัก”
รองกรรมการผู้จัดการ CPALL กล่าวว่า แม้สถานการณ์ในประเทศยังมีปัญหาจากเหตุการณ์ทางการเมือง แต่บริษัทเชื่อว่าในประเทศยังมีสภาพคล่อง และด้วยความที่บริษัทมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ จึงชื่อว่าการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน
ทั้งนี้ CPALL มีหนี้เงินกู้ 1.8 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 1.3 แสนล้านบาท หุ้นกู้ 5 หมื่นล้านบาท ถ้าออกหุ้นกู้ครั้งนี้อีก 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้หนี้เงินกู้ระยะสั้นที่เป็นสกุลดอลลาร์ จะมีผลให้สัดส่วนหนี้จะแบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 9 หมื่นล้านบาท และหุ้นกู้ 9 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าหน้าสถาบันการเงินทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อขอเปลี่ยนวงเงินกู้ระยะสั้นเป็นระยะยาว โดยใช้ 3 แนวทาง คือ กู้จากสถาบันการเงิน ได้แก่ 1.กู้สกุลดอลลาร์จากสถาบันการเงินต่างประเทศ 2.กู้เป็นเงินบาทจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ และ 3.กู้เป็นเงินบาทจากธนาคารต่างประเทศที่อยู่ในไทย ซึ่งหลังจากรีไฟแนนซ์ทั้งหมดแล้วจะทำให้ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยรวมของ CPALL ลดลงต่ำปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 5% โดยคาดว่ากระบวนการรีไฟแนนซ์จะเสร็จไตรมาส 2/57
ส่วนเป้าหมายธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10-15% จากปีก่อน โดย 2 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายยังเติบโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนแล้ว เนื่องจากสินค้าของร้าน 7-11 เป็นอาหารพร้อมทาน ดังนั้น แม้การเมืองอาจกระทบบ้างในส่วนนักท่องเที่ยว แต่การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนยังอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นร้านขายของชีวิตประจำวัน 24 ชม. ทำให้ไม่มีต่อยอดขายของมากนัก
ขณะเดียวกัน ปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไปไว้ 8 พันล้านบาท ที่สูงกว่า 2-3 ปีก่อน เพื่อขยายสาขาใหม่ ปรับปรุงสาขาเดิม รวมทั้งลงทุนศูนย์กระจายสินค้า และบริษัทลูกในธุรกิจอาหาร-เบเกอรี และตั้งบริษัทใหม่ธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์
“ปี57 ยอดขายของเรายังเป็นบวก เรามีแผนขยายสาขาอีก 600 สาขาในปีนี้ จากปีก่อนที่ 607 สาขา ขณะที่ MAKRO ที่เป็นบริษัทลูก ยอดขายก็มีการเติบโตที่ดีและมีแผนจะขยายสาขาเช่นกัน”
