ฟิทช์ เรทติ้งส์ วิเคราะห์การเมืองไทยหากยังตึงเครียด ยืดเยื้อ เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจแย่ลง กระทบเครดิตประเทศ ด้าน สศค. โต้ปัญหาการเมืองไม่กระทบเศรษฐกิจไทย แต่ทำเสียโอกาสมากกว่า
รายงานข่าวจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ออกบทวิเคราะห์สถานการณ์ประเทศไทย หากการเผชิญหน้าทางการเมืองยังคงยืดเยื้อ และตึงเครียดมากขึ้น อาจทำให้เศรษฐกิจไทยแย่ลง และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือลดลง รวมทั้งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน และยืดเยื้อเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้จะกระทบต่อระบบธนาคารผ่านการด้อยค่าของคุณภาพสินทรัพย์ ซึ่งมาจากสัดส่วนหนี้ของภาคเอกชนไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยปัจจุบันหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่หากความตึงเครียดทางการเมืองคลี่คลายลง เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปี 2557 จะกลับมาดีขึ้นอยู่ที่ 3.5%
ฟิทช์ฯ มองว่าการเลือกตั้งของประเทศไทยที่ยังไม่เสร็จสิ้น ไม่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางการเมืองของประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยการแบ่งฝ่ายทางการเมืองที่ยืดเยื้อ และตึงเครียดมาถึง 5 เดือน มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงิน
ทั้งนี้ เห็นได้จากผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมการผลิตไตรมาส 4 ปี 2556 ที่หดตัวลง 7% อัตราการเติบโตของการค้าปลีก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจลดต่ำลง ส่งผลให้การประมาณการจีดีพีปี 2557 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับลดลงไปถึง 2% มาอยู่ที่ 3%
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2557 โดยข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา พบว่าวิกฤติการเมืองไม่เคยทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า
ถ้าการเมืองไม่นิ่งจะทำให้ไม่มีการลงทุน และส่งผลให้จีดีพีปีนี้อยู่ที่ 3.1% หากไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ที่ 2.8-2.9% หากเกิดเหตุรุนแรงทางการเมือง เศรษฐกิจอาจปรับลดลงอีกได้