กุนซือใหญ่ พีซีเอ ฟุ้งตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 20% หลังเข้าตลาด mai เผยนักลงทุนให้ความสนใจสูงจากกระแสแรงของดิจิติอลทีวี และมีปันผลสูง แนวโน้มเตรียมรุกตลาดกลุ่มประเทศ AEC เพราะศักยภาพยังรองรับได้อีกมาก คาดขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดึงมาร์เกตแชร์ 3-5%
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริการ บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย หรือ PCA กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขอเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบคำขอ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเข้าดำเนินการซื้อขายในตลาดหุ้นได้ภายในไตรมาสที่ 2 นี้ ซึ่งเตรียมจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป หรือ IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท และการจัดซื้ออุปกรณ์ให้โรงงานผลิต ตลอดจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งคาดว่าหลังจากที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายแล้วจะสามารถเพิ่มสภาพคล่องให้แก่บริษัทฯ มากขึ้น
“บริษัทตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้น mai ได้ในช่วงกลางปี โดยจะพิจารณาดูสถานการณ์ทางการเมือง หากไม่มีความรุนแรงมากนักจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมบริษัท แต่หากมีความรุนแรงเรามีการเตรียมแผนสำรองไว้ โดยจะขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่น พม่า เขมร ลาว เพื่อขยายฐานรายได้ให้บริษัทฯ”
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หรือไม่น้อยกว่าปี 2556 ที่อยู่ที่ 750 ล้านบาท จากรายได้ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ธุรกิจที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 50% และธุรกิจผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ PlanetComm มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 40% รวมถึงธุรกิจบริการด้านการติดตั้ง บำรุงรักษาโทรคมนาคม มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 10% ขณะที่บริษัทฯ มีงานในมือ Backlog ณ สิ้นเดือนมกราคม 57 อยู่ที่ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นงานในประเทศ 95% มีงานภาครัฐ 60% และภาคเอกชน 40% คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด และงานในต่างประเทศอีก 5% ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาทำโครงข่ายมือถือในประเทศพม่า คาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้บุกตลาดธุรกิจทีวีดิจิตอลด้วยการผลิตกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดิน หรือ Set Top Box โดยได้ทำการเปิดตัวกล่องรับสัญญาณ Set Top Box แบรนด์ PlanetComm รุ่น DVR-T2A ในราคา 1,495 บาท ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 3-5% และตลาดทีวีดิจิตอลในปีนี้จะโตขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 20-30%
“ด้านราคากล่องรับสัญญาณอาจจะมีการปรับลดราคาลงได้อีก ซึ่งจะยืดหยุ่นตามราคาตลาด ตามกฎระเบียบที่ทาง กสทช. ประกาศออกมา หากมีการแข่งขันในตลาดที่สูง โดยขณะนี้มียอดจองกล่องแล้ว 500 กล่อง ซึ่งบริษัทสามารถผลิตกล่องได้จำนวน 1 แสนกล่องต่อเดือน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการขายกล่อง Set Top Box ในปีนี้ไว้อย่างน้อย 100 ล้านบาท ซึ่งจะมีการพัฒนากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลรุ่นใหม่ๆ ทยอยออกมาในไตรมาสที่ 2 ของปี เพื่อรองรับการออกอากาศระบบใหม่ของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ”
ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าการเข้าประมูลติดตั้งระบบส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลนั้น บริษัทฯ กำลังดำเนินการอยู่ในระหว่างการยื่นซองประกวดราคา หรือ TOR จำนวน 3 ช่องคือ ช่อง ThaiPBS ช่อง 11 และช่อง 9 อสมท